30.10.10

การโอนย้ายข้อมูลจาก space มาที่ wordpress


เหอะๆๆๆเจ้า wordpress หลังจากที่รบกะมันมาเพิ่งจะเข้าใจวิธีการโยกย้ายข้อมูลของมัน ก็เลยอยากแบ่งปันเพื่อกับคนที่ยังโอนไม่ได้
โดยเรื่องมันมีอยู่ว่าเจ้า Windows Live Spaces จะทำการย้ายฐานลูกค้าไปยังบริการ Wordpress ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในเครือโดยอัตโนมัติ
โดยอ้างถึงประสิทธิที่สุดแสนเลิศศ เกี่ยวกับการใช้งานของWordpress หรือเหตุผลอีกเยอะแยะแต่ที่เข้าใจง่ายคือเค้าไล่ที555+++
 ****โดยขั้นตอนแรก คือเข้าเสปซของตัวเองก่อน ถ้าใครจำ url ของตัวเองได้ ก็พิมพ์ไปเลย  เข้าเสปซได้แล้วก็จะขึ้นหน้าต่างหน้าตาแบบในรูป



พอมันปรากฏหน้าตาประมาณนี้ เราก็ใส่อีเมลล์และพาสไป และมันก็จะขึ้นหน้าตาแบบนี้มาให้เราเลือกกด connect

 

ต่อมานะ ถ้าเราไม่มี wordpress มาก่อน มันก็จะขึ้นหน้าต่างแบบในรูปมาให้เราสร้าง wordpress ของเราก่อน จะตั้งชื่ออะไรก็ตามใจเรา ในที่นี่ หรือจะใช้ชือเก่าแบบเดียวกะ space ก็ดีเวลาเพื่อนๆตามหาจะได้ง่าย โดยเลือกหัวข้อ create new blog เราก็ได้ชื่อ blog ของเรามา ในช่วงทีเรากดเข้ามันจะขึ้นว่า myblog และนามสกุลใหม่ในช่องนี้แหละทีเราสามารถใส่ชื่อลงไป

 
แต่มันมีข้อแม้อยู่อีกว่ามีหลายคนที่บางทีอาจทำการหลงเปิดเข้ามาอยู่ก่อนแล้วในตอนแรกโดยไม่รู้ มันก็จะเท่ากับว่าเราทำการเปิด usr ไปกะมันเรียบร้อย เราต้องทำการเลือกหัวข้อของมันใหมีโดยเลือกชื่อบล๊อกของเรา โดยหน้าต่างมันจะขึ้นชื่อมาให้เราเลือก ก็ดูว่าชื่อหน้าบล๊อกใน wordpress ของเรามันชื่ออะไรเราก็ทำการเลือกมันซะ
****จุดนี้เเหละที่จะทำให้เราย้ายข้อมูลจาก spaceมาได้ โดยไม่ต้องสงสัยกะมันอีกว่าทำไม๊ทำไมมันไม่ตามมา 555+++


 ทีนี้หลังจากเราเลือกตามนี้แล้วมันก็จะมาถึงหัวข้อสุดท้ายของมัน แล้วเราก็ทำการรอมันทำการโอนถ่ายข้อมูล โดยสังเกตุได้จากแถบขาวๆใต้บรรทัดของคำว่า Import Progress:


โดยแรกมันจะยังไม่ขึ้นแถบเราก็ปล่อยมันไปรอจนมันขึ้นแถบสีฟ้าขึ้นมาจนเต็มแถวเมื่อไหร่นั่นก็คือมันเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนจีน555++++

 

****ต้องขอบคุณ K-Hud กะเจ้าหงิญ ที่ทำให้หายงง
ที่มารูปจาก - wordpress






15.10.10

จากปมพระวิหาร ถึงปากคำ“Eเพ็ญ”เปลือยกำพืด “แม้ว”สายพันธุ์อำมหิตจับมือ“ฮุนเซน”เผาไทยแลกประโยชน์

 

จากระเบิดที่ป้ายรถเมล์ที่หน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ มาจนการเกิดเหตุระเบิดกลางดึกที่ซอรางน้ำ ตรงข้ามห้างดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์ มาจนกระทั่งการพบลูกระเบิดเอ็ม79ในทำเนียบรัฐบาล 3เหตุ อันน่าประหวั่นพรั่นพรึง ไม่รวมกับเหตุลอบวางระเบิดในหลายพื้นที่ และก่อนหน้านี้กรณีระเบิดรถเข็นหน้าพรรคภูมิใจไทย เกิดหลังบ้านเมืองเพิ่งผ่านวิกฤติพฤษภามหาวินาศ ผู้ก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมืองผ่านมาเพียง2เดือนกว่าๆ
ฉาย ภาพเด่นชัดถึงวันนี้ประเทศไทยก็ยังไม่พ้นจากห้วงอันตราย หรือสยามเมืองยิ้มดินแดนที่เคยสงบสุขได้แปรเปลี่ยนไป กลายเป็นเมืองระเบิดหรือมะแตกแลนด์ไปแล้ว??
ผลกระทบ นอกจากชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนที่ไม่รู้เรื่องด้วยกับเกมแย่งชิงอำนาจ  ต้องมาบาดเจ็บนับสิบ และเสียชีวิตไปอีก1ราย โดย เฉพาะผู้เคราะห์ร้าย คนเก็บของเก่าหาเช้ากินค่ำ ต้องมาประสบเหตุระเบิดในซอยรางน้ำจนบาดเจ็บสาหัส ยื้อชีวิตด้วยการผ่าตัดเปิดกะโหลกและตัดอัณฑะทิ้ง สังเวยเกมป่วนเมือง ถึงตรงนี้ไม่ได้ปรักปรำ แต่ผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บ่งชี้ไปในทิศทางที่ว่า ระเบิดหลายครั้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวโยง และเป็นวิธีการในลักษณะเดียวกันกับการลอบวางระเบิดหลายจุดในกทม.ช่วงม็อบ เสื้อแดงเดือนเมษายน-พฤษภาคม
อีกทั้งยังสงสัยได้ว่า "ระเบิด" คือแผนการร้ายลำดับต่อไปของนักโทษชายหนีคดี "ทักษิณ ชินวัตร" หลังปราชัยในเกมมวลชน การใช้ม็อบเสื้อแดงไม่สามารถล้มอำนาจรัฐบาล โค่นทุกองค์กรสถาบันสำคัญๆในประเทศชาติไม่สำเร็จ จึงต้องใช้แผน "วินาศกรรมประเทศไทย"??
โดยไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดการณ์แน่ เพราะนักโทษหนีคดีรายนี้พร่ำพูดเสมอว่าไม่สนใจวิธีการ ขอไปให้ถึงเป้าหมายเพียงพอ ถึงแม้วิธีการนั้นๆจะทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง เกิดความสูญเสียมากมายเพียงใดแม้แต่ชีวิตเลือดเนื้อชาวบ้านก็ตาม
นอกจากนี้สังเกตได้จากการระดมอดีตนายทหาร อดีตตำรวจสารพัดรุ่นเข้ามาอยู่ในพรรคเพื่อไทย หลายคนในกลุ่มอดีตท็อปบูตและสีกากีเหล่านี้เป็นที่รับรู้ในปูมประวัติกันดี บางส่วนคืออดีตทหารนักรบ มาเฟียสีกากี เป็นพวกเสพติดความรุนแรง นิยมการใช้กำลังและอาวุธเพื่อก่อการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอำนาจ หลายครั้งในอดีต  แต่คนกลุ่มนี้จะเกี่ยวข้องระเบิดหรือไม่ก็ตาม แต่คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยังอยู่ในบริษัทการเมืองที่นายจ้างจะเรียกใช้งานใด ก็คาดการณ์กันได้ และเช่นกันว่า "คนแก่ โรคจิต"ที่ผบช.น. เอ่ยถึงผู้บงการเบื้องหลังเหตุวางระเบิด ตัวจักรสำคัญที่แฝงอยู่ในกลุ่มก๊วนนี้
เรื่องนี้ต้องฝาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย หรือพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ในฐานะที่เป็นสองพี่ใหญ่ ช่วยหาตัวมาพิสูจน์ และเป็นไปได้ช่วยห้ามปรามไม่ให้"เฒ่าโรคจิต"มาก่อกรรมทำเข็ญต่อบ้านเมืองอีก ที่ไม่ใช่คนแก่ ยังหนุ่มแน่น ปากแดงแจ๋ ส่วนจะป่วยทางจิตหรือไม่ ยังไม่ชี้ชัดได้ "จักรภพ เพ็ญแข"ผู้ต้องหาหนีคดี ที่ล่าสุดออกมาให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ด้วยนัยยะน่าสนใจ เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบในไทย และนายใหญ่ของเขา ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเกี่ยวข้องการให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศสถานี โทรทัศน์เอบีซี ประเทศออสเตรเลีย เข้าสัมภาษณ์ในสถานที่ที่ไม่เปิดเผย จักรภพ อดีตแกนนำคนเสื้อแดงในเหตุการณ์จลาจลเมื่อเดือนเม.ย.2552 ยืนยันว่าเขาไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความรุนแรง
แต่ ยอมรับว่ามีบทบาทในการให้คำปรึกษาแนะนำกับแกนนำบนเวทีเสื้อแดงระหว่างการ ชุมนุมเคลื่อนไหว เช่นเดียวกันกับการยอมรับกลายๆว่า "ทักษิณ"ก็มีส่วนรู้เห็นในม็อบเสื้อแดง แต่ทักษิณกำลังประเมินใหม่ว่า จะคุ้มค่าหรือไม่ที่จะสนับสนุนการเคลื่อนไหวในประเทศไทย
"การ เคลื่อนไหวจะได้รับการสนับสนุนมาจากไหน แต่ในช่วงปีที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการสนับสนุนมาได้จากทุกที มันไม่จำเป็นที่จะต้องมาจากคุณทักษิณและครอบครัวของเขา หรือคนที่เขาสั่งมา"
"ผม พูดถึงเงิน พูดถึงสถานที่ปลอดภัยที่จะอยู่ พูดถึงความร่วมมือกับรัฐบาลในประเทศที่พวกเราไปเยือน ไปอยู่ ... ผมพูดถึงสิ่งเหล่านี้ พวกเราได้รับ (การสนับสนุน) โดยธรรมชาติมากกว่าแต่ก่อน  หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ก่อนหน้านี้เรามีระบบที่ค่อนข้างปิด และ ผมรู้สึกผ่อนคลายที่ในช่วงปีที่ผ่านมามีการสนับสนุนอย่างกว้างขวางเช่นกัน แต่เราก็มีภารกิจที่จะชี้ให้ผู้คนที่อยู่ภายนอกเห็น โดยเฉพาะชาวต่างชาติ"
โดยเฉพาะในระดับ "นานาชาติ" "ทุนต่างชาติ"เข้ามาสนับสนุนม็อบเสื้อแดงก่อเหตุในประเทศไทย!
และ จากบทสัมภาษณ์ของจักรภพ พอจะประเมินได้ว่า เวลานี้ด้วยข้อจำกัดภายหลังความพ่ายแพ้ในการชุมนุมช่วงมี.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมา "ทักษิณ"กำลังคิดจะปรับเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้จากแนวรบด้านมวลชนไปในรูปแบบอื่น นอกเหนือจากใช้ล็อบบี้ยิสต์เดินเกมต่างประเทศกดดันไทย ยังคิดที่จะใช้แผนต่อสู้อื่น ที่ไม่พ้น "เกมใต้ดิน"  เกมที่แกนนำเสื้อแดง และกลุ่มคนในม็อบประกาศหลายครั้งว่า หากพ่ายแพ้ในการต่อสู้โดยอาศัยมวลชนกดดัน พวกเขาจะมุดลงใต้ดิน จัดตั้งกองกำลังหน่วยจรยุทธ์ เพื่อต่อสู้ และก็ปรากฏความเคลื่อนไหว แกนนำเสื้อแดงหลายรายหลบหนีไปอยู่ในกัมพูชา
ประเทศ เพื่อนบ้านที่ก่อนหน้านี้ผู้นำอย่าง"ฮุนเซ็น" เคยประกาศแบบไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า พร้อมต้อนรับและจัดสร้างบ้านไว้รับรองเป็นที่พักพิงคนเสื้อแดงจากประเทศไทย   ในเวลาเดียวกันกับที่ จักรภพ เปิดประเด็นทักษิณจะเปลี่ยนวิธีการสู้ และพูดถึงเงินทุนต่างชาติที่พร้อมสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ก็กำลังมีข้อพิพาทกรณีกัมพูชาเดินเกมผลักดันแผนพัฒนาปราสาทพระวิหารเป็นมรดก โลก ในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก  ข้อพิพาทระหว่างประเทศ ที่กำลังลุกลามบานปลายกระทบกระทั่งกันตามแนวชายแดน และสุ่มเสี่ยงจะเกิดสงครามใหญ่ ย่อมเป็นที่สงสัยว่า "ทักษิณ"จะหันมาเปิดศึกด้านนี้ร่วมกับเขมร ขณะเดียวกันก็น่าสงสัยว่า "ทุนต่างชาติ"หนุน "ม็อบเสื้อแดง"มาจากกัมพูชา
แน่นอนข้อมูลดังกล่าวเป็นไปในทางเดียวกับข่าวที่มีต่อเนื่อง ประเทศเพื่อนบ้านของเรารู้เห็นเป็นใจกับแผนร้ายของนักโทษหนีคดี ทั้งเปิดประเทศต้อนรับ ตั้งเป็นที่ปรึกษา ประกาศช่วยลูกน้องทักษิณ รวมทั้งแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ และประกาศตัวเป็นศัตรูกับประเทศไทย
ไม่เท่านั้นการข่าวจากฝ่ายความมั่นคงเรื่องอาวุธสงครามที่ใช้ในการก่อเหตุช่วงการชุมนุม ม็อบเสื้อแดง เล็ดรอดมาจากชายแดนเพื่อนบ้าน ที่หนึ่งในนั้นคืออาวุธที่มาจากฝั่งกัมพูชา ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่ประเมินกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ทักษิณ ใช้ทุกรูปแบบวิธีการเพื่อโค่นล้มทุกอำนาจ ทุกองค์กร ทุกสถาบันที่ขัดขวางการกลับสู่ประเทศ ลบล้างคดีความและคืนสู่อำนาจ
โดยที่ควบคู่กับแนวรบด้านมวลชน คือยุทธศาสตร์ "คีมยักษ"ใช้โลกล้อมประเทศ และแผนดึงเพื่อนบ้านมาร่วมถล่มประเทศไทย
ถามว่าถ้าข้อสงสัยเรื่องฮุนเซ็นสมคบคิดทักษิณ ป่วนประเทศ ล้มรัฐบาลไทย เป็นจริง ทางกัมพูชาจะได้อะไร ก็ต้องบอกว่า จากกรณีตัวอย่าง ปมความขัดแย้งในการเดินเกมผลักดันปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก สะท้อนผลประโยชน์แลกเปลี่ยนทักษิณ-ฮุนเซ็นเด่นชัด เพราะมีการพูดถึงข้อตกลงลับ ในการยื่นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนระหว่างอดีตผู้นำขี้โกงจากไทย และผู้นำเผด็จการเขมร เกี่ยวกับการยกดินแดนแลกเปลี่ยน นอกจากฝั่งแผ่นดินที่ไทยสุ่มเสี่ยงต้องสูญเสียในกรณีปัญหาเส้นเขตแดนหากขึ้น ทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก  ยังมีกรณีดินแดนทางทะเลอ่าวไทย พื้นที่ระหว่างชายฝั่งของสองประเทศที่ว่ากันว่ามีขุมทรัพย์พลังงาน ทั้งก๊าซ น้ำมัน ปริมาณมหาศาล อยู่ใต้ผืนน้ำแห่งนี้ ขุมทรัพย์ที่อาจเป็นเงื่อนไขงามๆในการขอรับการสนับสนุนจากกัมพูชาในการ เคลื่อนไหวปั่นป่วนในไทย
โดยหากทักษิณได้กลับมาครอบครองอำนาจอีกครั้ง ขุมทรัพย์นี้ย่อมเฉลี่ยแบ่งปันไปตามความพอใจของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะความพอใจของ"ฮุนเซ็น"ในสัดส่วนที่มากพอ ที่จะตัดสินใจเลือกแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับ"บุคคล"มากกว่า"ประเทศ" และ แน่นอนกรณีความขัดแย้งระหว่างไทย และ เขมรจากประเด็นการเสนอแผนพัฒนาปราสาทพระวิหาร ต่อคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก ที่ประเทศบราซิล ซึ่งจบลงโดยยังไร้ข้อยุติด้วยการเลื่อนการตัดสินไปในการประชุมปีหน้า อนุมานว่า"ทักษิณ"มีส่วนในเรื่องนี้ด้วยแน่ เนื่องจากถ้อยแถลงในเว็บไซต์ส่วนตัวของ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของทักษิณ ที่โจมตีรัฐบาลไทยว่าเป็น "อันธพาล" ไม่เคารพกติกาสากลและเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาทางการเมืองด้วยการสร้างเรื่องโกหกให้เกิด สงครามเทียมกับกัมพูชา  ทนายฝรั่งลูกจ้างของทักษิณกำลังเดินเกมช่วยประเทศเขมรร่วมถล่มไทยอย่างเปิดเผย ควบคู่ไปอีกแนวทางการต่อสู้ของทักษิณที่จะเปลี่ยนไปใช้รูปแบบ"รบใต้ดิน" ที่ประเมินได้ว่าจะมีต่างชาติให้การสนับสนุน โดยต่างชาติที่ต้องสงสัยหนีไม่พ้นกัมพูชา
วันนี้จึงค่อนข้างชัดแล้วว่า "ทักษิณ" ได้จับมือ "ฮุนเซ็น"เตรียมประกาศสงครามกับประเทศไทย เปิดสมรภูมิแนวรบสงครามทุกรูปแบบ บนเงื่อนไข"ผลประโยชน์ต่างตอบแทน"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา---k-นกหวีด....ผู้จัดการออนไลน์