26.4.11

สงสัยแกจะเป็นญติเจ๊ระเบียบ......

   

       อ่านไปเจอข่าวเกียวกับสาวน้อยที่ถอดเสื้อเล่นสงกรานต์บ้านเรา ทำให้นึกถึงข่าวเก่าข่าวหนึ่ง เป็นข่าวเก่าแล้วเกี่ยวกับ ภาพเขียน"สาวเปลือยอก"ของโกแกงที่หวิดถูกเผา โดยผู้ก่อเหตุอ้างส่อนัย"พฤติกรรมรักร่วมเพศ  (ทำให้สงสัยว่าแกจะเป็นญติเจ๊ระเบียบเเน่ๆ)

    เรื่องมันมีอยู่ว่าได้มีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯจับกุมตัวสตรีคนหนึ่งซึ่งพยายามทำลายภาพเขียน "Two Tahitian Women" หรือ"หญิงสาวชาวตาฮิติสองคน" ของ"พอล โกแกง" ศิลปินภาพวาดแนวอิมเพรสชันนิสต์ชาวฝรั่งเศส ที่จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยเธอเผยสาเหตุที่ต้องทำเช่นนั้นว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพที่มีการเปลือยกาย และส่อนัยถึงพฤติกรรมรักร่วมเพศ
โดยสตรีรายหนึ่ง ซึ่งถูกระบุว่าชื่อนางซูซาน เบิร์นส วัย 53 ปี จากรัฐเวอร์จิเนีย กล่าวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมตัวเธอว่า เธอรู้สึกว่าโกแกงคือปีศาจ เขาวาดภาพเปลือยซึ่งเป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับเด็กๆ มั่นส่อถึงพฤติกรรมรักร่วมเพศอย่างชัดเจน และคิดว่ามันสมควรที่จะถูกทำลาย หลังจากที่เธอพยายามที่จะดึงภาพดังกล่าวลงจากบริเวณที่จัดแสดง และทุบมันด้วยหมัดของเธอ

       ระหว่างการบันทึกปากคำ เธอกล่าวว่า เธอกำลังพยายามที่จะทำลายมัน และคิดว่ามันสมควรถูกเผา นอกจากนั้นเธอยังพูดจาด้วยอาการแปลกๆ อาทิ "ฉันมาจากหน่วยซีไอเอและฉันมีวิทยุอยู่ในหัวของฉัน ฉันกำลังจะฆ่าพวกคุณ"
นางเบิร์นส ได้เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติสหรัฐฯ และบุกเข้าไปยังพื้นที่ที่มีการจัดแสดงภาพดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อดึงภาพดังกล่าวลงจากผนัง จนกระทั่งมันตกลงบนพื้น ก่อนที่เธอจะใช้หมัดของเธอต่อยกระแทกบริเวณกลางภาพ และถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยควบคุมตัว

        อย่างไรก็ดีภาพดังกล่าวได้รับการปกป้องจากแผ่นอะครีลิคแบบใส ซึ่งไม่ทำให้ภาพเสียหายมากนัก โดยพิพิธภัณฑ์เตรียมนำภาพดังกล่าวไปทำตรวจสอบในห้องแล็บอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบหาสิ่งผิดปรกติเพิ่มเติมต่อไป

       นางเบิร์นถูกแจ้งข้อหาว่าทำลายทรัพย์สิน ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้สำหรับยึดติดภาพกับผนัง และก่อให้เกิดความเสียหายต่อผนัง และข้อหาพยายามขโมยภาพวาด ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าประมาณ 80 ล้านดอลลาร์

           ภาพเขียน "Two Tahitian Women" ถูกเขียนขึ้นโดยพอล โกแกง เมื่อปี 1899 แสดงภาพของหญิงสาวชาวตาฮิติ 2 คน ซึ่งเปลือยหน้าอก โดยมีคนหนึ่งกำลังถือภาชนะที่บรรจุเกสรดอกมะม่วง เป็นภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ ซึ่งมีขนาด 94 x 72.4 ซม.
พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติสหรัฐฯขอยืมภาพเขียนดังกล่าวมาจากพิพิธภัณฑ์เมโทรโพลิแทน มิวเซียม ออฟ อาร์ต ในนครนิวยอร์ค เพื่อจัดแสดงในนิทรรศการชุด "Gauguin: Maker of Myth"


ที่มา--matichon.co.th


25.4.11

กลอนเขมร-ไทย

 


     สัปดาห์นี้มีเรื่องความเมืองใหญ่      
ไทยถูกฟ้องขับไล่ขึ้นโรงศาล
เคยเป็นเรื่องโต้เถียงกันมานาน        
ที่ยอดเขาพระวิหารรู้ทั่วกัน
กะลาครอบมานานโบราณว่า            
พอแลเห็นท้องฟ้าก็หุนหัน
คิดว่าตนนั้นใหญ่ใครไม่ทัน             
ทำกำเริบเสิบสันทุกอย่างไป
อันคนไทยนั้นสุภาพไม่หยาบหยาม   
เห็นใครหย่อนอ่อนความก็ยกให้
ถึงล่วงเกินพลาดพลั้งยังอภัย           
ด้วยเห็นใจว่ายังเยาว์เบาความคิด
เขียนบทความด่าตะบึงถึงหัวหู         
ไทยก็ยังนิ่งอยู่ไม่ถือผิด
สั่งถอนทูตเอิกเกริกเลิกเป็นมิตร       
แล้วกลับติดตามต่อขอคืนดี
ไทยก็ยอมตามใจไม่ดึงดื้อ              
เพราะไทยถือเขมรผองเหมือนน้องพี่
คิดตกลงปลงกันได้ด้วยไมตรี          
ถึงคราวนี้ใจเขมรแลเห็นกัน
หากไทยจำล้ำเลิกบ้างอ้างขอบเขต  
เมืองเขมรทั้งประเทศของใครนั่น?
ใครเล่าตั้งวงศ์กษัตริย์ปัจจุบัน          
องค์ด้วงนั้นคือใครที่ไหนมา?
เป็นเพียงเจ้าไม่มีศาลซมซานวิ่ง       
ได้แอบอิงอำนาจไทยจึงใหญ่กล้า
ทัพไทยช่วยปราบศัตรูกู้พารา           
สถาปนาจัดระบอบให้ครอบครอง
 ได้เดชไทยไปคุ้มกะลาหัว               
จึงตั้งตัวขึ้นมาอย่างจองหอง
เป็นข้าขัณฑสีมาฝ่าละออง             
ส่งดอกไม้เงินทองตลอดมา
ไม่เหลียวดูโภไคไอศวรรย์              
ทั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นหนักหนา
ฝีมือไทยแน่นักประจักษ์ตา              
เพราะทรงพระกรุณาประทานไป
มีพระคุณจุนเจือเหลือประมาณ        
ถึงลูกหลานกลับเนรคุณได้
สมกับคำโบราณท่านว่าไว้              
อย่าไว้ใจเขมรเห็นจริงเอย...

************************

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
หนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์
๑๘ ตุลาคม ๒๕๐๒


20.4.11

วันโลกาวินาศ...ในวันที่ 22 ธันวาคม 2555 จริงหรือ ?



มาดูคำทำนายจากบุคคล และหน่วยงานต่างๆในโลกดังนี้



1.วันนั้นจะเป็นวันเดียวกับที่ ดวงอาทิตย์จะพลิกกลับขั้วเช่นกัน เพราะดวงอาทิตย์จะพลิกกลับขั้วทุกๆ 11 ปี ปีล่าสุดคือปี พ.ศ. 2544 ถ้ามาถึงวันนี้ก็ 11 ปีพอดี (2544 + 11 = 2555) ขณะ ที่ดวงอาทิตย์กำลังพลิกกลับขั้วนั้น ดวงอาทิตย์จะแผ่สนามแม่เหล็ก และรังษีความร้อนสูงมายังโลก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่โลก ไม่มีสนามแม่เหล็กป้องกันตัวเอง ผลคือ น้ำแข็งขั้วโลกละลายฉับพลัน น้ำท่วมโลกฉับพลัน ไม่มีทางหนีได้ทัน ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

2.ชาวมายา (ชนเผ่ามายาแห่งอเมริกากลาง)
ชาวมายายังกำหนดวันสุดท้ายของปฏิทินของพวกเขาคือ วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) พวกเขาบอกด้วยว่า วันนั้นโลกจะถึงจุดสิ้นสุด (โดยบอกไว้เมื่อ 1,000 กว่าปีที่แล้ว) น่าแปลกมาก ทำไมมาตรงกับองค์การ NASA อีก ไม่น่าเชื่อเลย
 [เวรกรรม ปฏิทินของชาวมายา (ชาวเผ่ามายาแห่งอเมริกากลาง) นั้นสิ้นสุดในปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) หรือวันนั้นโลกมนุษย์จะวิบัติ]

3.นาย Gordon-Michael Scallion เป็นผู้หยั่งรู้อนาคต (futurist)เขาเชื่อว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในระหว่างปี 1998-2012 (พ.ศ.2541-พ.ศ.2555) และเขาได้สร้างแผนที่โลกใหม่หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ Future Map Of The World ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1978 (พ.ศ. 2521) ซึ่งประเทศไทยเหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

4."หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล"คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้บาป บุญ

 ที่มา---oknation.net/blog/uthai

*****ใช้วิจารณญาณในการอ่าน ซึ่งบางทีอาจเป็นอุบายให้มนุษย์เรารู้จักกลัว และหันมาทำความดีกันมากขึ้น*****

8.4.11

พระราชดำรัสให้แจ้งให้ทราบ" ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์..แตก!!!

 

                      
          ด้วยพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ท่านทรงมีพระราชดำรัสให้แจ้งประชาชนให้ทราบถ้าเขื่อน ศรีนครินทร์..แตก!!!

นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ( มท. 3)
อยากชี้แจงให้นักท่องเที่ยวทราบว่าถ้าแผ่นดินไหวแล้วทำให้เขื่อนแตกน้ำ ก็จะใช้เวลาเดินทางไปยังที่ต่างๆประมาณ 15 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวยังสามารถหลบหนีได้ทัน

นายสิทธิชัย กล่าวว่า การตรวจเขื่อนครั้งนี้
เนื่องจากประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง วิตกว่าหากเกิดแผ่นดินไหว อาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในแนวลุ่มน้ำของจังหวัดได้ เพราะจังหวัดกาญจนบุรีเป็นที่ตั้งของ เขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ตั้งอยู่บนแนวแขนงรอยเลื่อน ศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ที่แยกจากแนวรอยเลื่อนสะแกงในประเทศพม่า.

- สำนักข่าวไทย

ประเด็นสำคัญสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ท่านทรงมีพระราชดำรัสให้แจ้งประชาชนให้ทราบ ' ความจริง ' ตรงจุดนี้กรณีเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งหากเกิดแผ่นดินไหว ตรงรอยเลื่อน และเขื่อนแตกออก ' ผลก็คือ '
- ด้วยพลังงานของน้ำ ที่มีปริมาณมหาศาล ตัว จ. กาญจนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงในแนวเส้นทางน้ำห ลากลงมาราบเป็นหน้ากลองแน่นอน มีเวลาอพยพ 5 ชั่วโมง ดังนั้นท่านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต้องมีการเตรียมตัว กันเอาไว้บ้าง

- เป้ฉุกเฉิน

- แผนอพยพของครอบครัว..เส้นทางอพยพ

- จังหวัด ที่อยู่ในเส้นทางน้ำในระดับต่อลงมา ย่อมเกิดผลกระทบตามไปด้วยแน่นอนและระดับพลังงานการ ทำลายล้าง ไม่น้อยกว่าสึนามิ

- สำหรับกรุงเทพมหานคร หากเขื่อนศรีแตก มีเวลาอพยพ 35 ชั่วโมง ซึ่งต้องคำนวนเผื่อกรณีที่ รวบรวมคนทั้งครอบครัว เผื่อรถติดหาเส้นทางอพยพ ที่ไม่สวนกระแสน้ำเพราะน้ำวิ่งมาตามถนนสายหลักอย่างเพชรเกษมแน่นอน ที่สำคัญหากน้ำทะเลหนุน ระดับน้ำที่คำนวนเอาไว้อาจสูงเกิน 2 เมตรหรือตึก 2 ชั้นได้

- ดังนั้นตั้งสติเอาไว้ ใช้ปัญญาพิจารณา หาแนวทางป้องกันตัวเองอย่าได้ประมาทในการทั้งปวง



ทีนี้เรามาดูประัวัติความเป็นมาเขื่อนศรีนครินทร์
เขื่อนศรีนครินทร์ (ชื่อเดิม เขื่อนเจ้าเณร) เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง สร้างขึ้น บนแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็น เขื่อนแห่งที่ 8 ในจำนวน 17 แห่ง ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างขึ้นเพื่อ อำนวยประโยชน์ทางด้านต่างๆ ตลอดจนช่วยพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ของราษฎร และส่งเสริมให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม
เขื่อนศรีนครินทร์ก่อกำเนิดขึ้น เพื่ออำนวยประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ ของประชาชน และการพัฒนาประเทศ ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่พักผ่อนที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี แต่ละปีจะมีนักทัศนาจรหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวชมอย่างมากมาย นับเป็นสถานที่เชิดหน้าชูตาของประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง

ลักษณะเขื่อน

เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงจากฐานราก 140 เมตร สันเขื่อนยาว 610 เมตร กว้าง 15 เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 419 ตารางกิโลเมตร มีความจุมากเป็นอันดับหนึ่งคือ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร โรงไฟฟ้าเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 5 เครื่อง เครื่องที่ 1-3 กำลังผลิต เครื่องละ 120,000 กิโลวัตต์ เครื่องที่ 4-5 เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าระบบสูบกลับ กำลังผลิต เครื่องละ 180,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิตทั้งสิ้น 720,000 กิโลวัตต์ งานก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ เริ่มเมื่อปี 2516 แล้วเสร็จในปี 2523 พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญ พระนามาภิไธยสมเด็จพระศรีนครินทร์ มาขนานนามเขื่อน และเสด็จ พระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเปิดเขื่อน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2524
ประโยชน์

เขื่อนศรีนครินทร์เป็นโครงการอเนกประสงค์ ซึ่งอำนวยประโยชน์ในด้านต่างๆ ดังนี้
ชลประทานช่วยส่งเสริมระบบชลประทาน โครงการแม่กลองใหญ่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมี เขื่อนแม่กลองของกรมชลประทาน เป็นหัวงานทดน้ำเข้าสู่พื้นที่เกษตรได้ตลอดปีเป็นเนื้อที่ถึง 4,118 ล้านไร่
ผลิตไฟฟ้า สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เฉลี่ยปีละประมาณ 1,250 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
บรรเทาอุทกภัย สามารถกักเก็บน้ำที่หลากมาในช่วงฤดูฝน ไว้ในอ่างเก็บน้ำได้เป็นจำนวนมาก ช่วย บรรเทาอุทกภัยในเขตลุ่มน้ำแม่กลองให้ลดน้อยลง
คมนาคมทางน้ำ สามารถใช้เป็นเส้นทางเดินเรือขึ้นไปยังบริเวณอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น
ผลักดันน้ำเค็ม สามารถปล่อยน้ำลงผลักดันน้ำเค็มมิให้หนุนล้ำเข้ามาทำความเสียหายแก่พื้นที่บริเวณปากน้ำแม่กลองในช่วงฤดูแล้ง
เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับราษฎรอีกทางหนึ่งด้วย
เขื่อนศรีนครินท์นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ให้ทั้งความรู้ และความเพลิดเพลินแก่ผู้มาเที่ยวชมปีละเป็นจำนวนกว่าแสนคน และก่อให้เกิดการขยายตัวทางการท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง เช่น แพท่องเที่ยวในอ่างเก็บน้ำ เป็นต้น


ที่มา วิกิพีเดีย. ชัยโรงเกลือ



3.4.11

FW: แผนที่โลกใหม่ หลังน้ำท่วมโลก เป็นไปได้จริงหรือ?

  






แผนที่ประเทศไทยหลังจากปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ.2555)

         เรื่องที่กลายเป็นประเด็นสาธารณะ และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางที่สุดใน พ.ศ.นี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "น้ำท่วมโลก" ที่จะกลายเป็น "วันสิ้นโลก" ตามที่มีผู้เคยทำนายทายทักไว้ว่า จะเกิดขึ้นในปี ค.ศ.2012 ผนวก กับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มนุษย์โลกได้เผชิญกับสัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติ ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ๆ ก็ยิ่งทำให้คนตื่นตระหนกกับ "วันสิ้นโลก" มากขึ้นเป็นเท่าตัว ฉะนั้นแล้ว จึงไม่แปลก หากคนจะกลับมาพูดถึงเรื่อง "แผนที่โลกใหม่" (Future Map of the World) ที่เคยมีผู้ทำนายเอาไว้ล่วงหน้า ว่าจะเหลือประเทศใดบ้างหลังผ่านเหตุการณ์ภัยพิบัติของโลก ในปี ค.ศ.2012 ไปแล้ว

        และผู้ที่ทำนายเรื่อง "แผนที่โลกใหม่" ไว้ก็คือ นายกอร์ดอน ไมเคิล สคัลเลียน ชายชาวอเมริกัน ซึ่ง เคยเกือบเสียชีวิตไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่กลับฟื้นขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากนั้น เขาก็อ้างว่าได้รับพรสวรรค์เรื่องการหยั่งรู้อนาคต และยังเคยทำนายเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ถูกต้องหลายครั้ง เช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวในลอสแองเจอลิส แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ.1992 (พ.ศ.2535), เหตุการณ์แผ่นดินไหวในแลนเดอร์ส (Landers) และ บิ๊กแบร์ (Big Bear) แคลิฟอร์เนีย เมื่อ 17 มกราคม ค.ศ.1994 (พ.ศ.2537) รวมทั้งแผ่นดินไหวที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ.1995 (พ.ศ.2538) เป็นต้น

        สำหรับเรื่อง "น้ำท่วมโลก" นั้น นายกอร์ดอนบอกว่า ตนได้มองเห็นตัวเองอยู่สูงขึ้นไปในอวกาศ แล้วมองกลับลงมาบนโลกเห็นแผนที่ใหม่ของโลก จนเมื่อเวลาผ่านไปอีกหลายปี เขาก็ยังเห็นภาพเดิม ๆ อีก จึงได้สร้างแผนที่โลกใหม่ หรือ Future Map Of The World ขึ้นมา เมื่อปี ค.ศ.1978 (พ.ศ.2521) และจัดพิมพ์ในปี ค.ศ.1982 (พ.ศ.2525)
โดยระบุว่า จะเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่ ๆ ในโลกระหว่างปี ค.ศ.1998-2012 (พ.ศ.2541-2555) ทั้ง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด รวมไปถึงเหตุการณ์น้ำท่วมโลก จนทำให้หลายประเทศหายไปจากแผนที่โลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศที่เป็นเกาะอยู่แล้วจะจมน้ำทั้งหมด และมีประชากรหลงเหลือเพียงแค่ 10% เท่านั้น 

และเมื่อพิจารณา "แผนที่โลกใหม่" ของนายกอร์ดอนแล้ว จะเห็นได้ว่า แต่ละทวีปเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดย




ทวีปเอเชีย

             จะ ได้รับผล กระทบหนักที่สุด เพราะอยู่ในแนว "วงแหวนแห่งไฟ" และเขตรอยต่อของเปลือกโลก นายกอร์ดอน ทำนายไว้ว่า จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ตั้งแต่ประเทศฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ไล่ขึ้นไปถึงทะเลแบริ่งที่เป็นช่องแคบอยู่ระหว่างรัฐอะแลสกา กับประเทศรัสเซีย ทำให้เกาะของประเทศญี่ปุ่นจมทั้งหมด เหลือเพียง 2-3 เกาะเล็ก ๆ เท่านั้น เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ที่จะถูกน้ำกลืนไปทั้งหมด

             ส่วนไต้หวัน และเกาหลีส่วนใหญ่จะจมหายไปในทะเลด้วย ขณะที่แนวฝั่งของประเทศจีนจะเลื่อนเข้าไปในแผ่นดินอีกหลายร้อยไมล์ ด้านอินโดนีเซียจะเกิดเกาะใหม่ ๆ ขึ้นมา แต่เกาะที่มีอยู่ก่อนหน้าก็จะจมหายไปด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากแผ่นเปลือกโลกที่เคลื่อนตัว ทำให้เกิดการมุดตัว  ยกตัวของแผ่นดิน

            สำหรับ ประเทศไทย นายกอร์ดอนทำนายไว้ว่า จะเหลือเพียงแค่ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วน และภาคกลางตอนบนเท่านั้น จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ตาก จะกลายเป็นชายฝั่งทะเล ขณะที่จังหวัดที่ติดกับแม่น้ำโขง คือ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม หนองคาย จะจมทะเลไปหมด และแม่น้ำโขงจะเปลี่ยนเป็นทะเลไปด้วย

ขณะที่ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก ภาคใต้ รวมทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ จะถูกน้ำท่วมจมหายไปจนหมดเช่นกัน



ทวีปออสเตรเลีย

          ประเทศออสเตรเลียจะสูญเสียแผ่นดินไปประมาณ 25% เพราะ น้ำท่วมชายฝั่งเกือลหมด และจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมาที่นอกชายฝั่ง ที่บริเวณช่องแคบบาสส์เชื่อมกับเกาะ ทาสเมเนีย ส่วนประเทศนิวซีแลนด์ จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะเกิดจากการยกตัวของแผ่นดินที่เป็นผลมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ และมีแผ่นดินบางส่วนเชื่อมต่อกับประเทศออสเตรเลียด้วย




ทวีปยุโรป

          ประเทศ ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์กจะถูกน้ำท่วมเหลือเพียงเกาะเล็ก ๆ น้อย ๆ นับร้อยเกาะ ขณะที่สหราชอาณาจักร ตั้งแต่สกอตแลนด์จนถึงช่องแคบจะจมหายไปในทะเลทั้งหมด เหลือเพียง 2-3 เกาะเล็ก ๆ เท่านั้น

          ประเทศรัสเซียจะแยกตัวออกจากทวีปยุโรป เพราะทะเลสาบแคสเปียน ทะเลดำ ทะเลคารา ทะเลบอสติก จะมารวมเข้าไว้ด้วยกัน กลายเป็นทะเลขนาดใหญ่แห่งใหม่ ถูกแบ่งด้วยเทือกเขาอูราล ยาวไปถึงแม่น้ำเยนิเซในไซบีเรีย ตรงนี้อุณหภูมิจะอบอุ่นขึ้น กลายเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ในอนาคต

          ประเทศบัลแกเรีย และโรมาเนียจะจมอยู่ใต้น้ำ เพราะทะเลดำขยายตัวไปรวมกับทะเลทางตอนเหนือ ประเทศฝรั่งเศสจมน้ำทั้งหมด เหลือแค่เกาะในกรุงปารีส และเกิดทางน้ำใหม่แยกประเทศสวิตเซอร์แลนด์ออกจากประเทศฝรั่งเศส ส่วนประเทศอิตาลี ซึ่งมีพื้นที่ต่ำอยู่แล้วจะจมน้ำทั้งหมด ยกเว้นนครรัฐวาติกันที่อยู่ที่สูงจะปลอดภัย และแผ่นดินสูง ๆ จะกลายเป็นเกาะ เกิดแผ่นดินใหม่ทอดยาวจากเกาะซิซิลิไปจนถึงเกาะซาร์ดิเนีย

          นอกจากนี้ นายกอร์ดอน ยังทำนายด้วยว่า จะเกิดสงครามศาสนาในดินแดนโปแลนด์เรื่อยไปถึงตุรกี แต่สงครามจะยุติลงด้วยความบริสุทธิ์ของแผ่นดินโดยไฟและน้ำ ขณะที่ตุรกีด้านตะวันตกจะจมอยู่ในน้ำ เกิดแนวชายฝั่งใหม่จากเมืองอีสตันบูลถึงไซปรัส ส่วนใหญ่ของสมรภูมิในสงครามโลกครั้งที่สองจมลงสู่ใต้ทะเล ก่อให้เกิดเกาะเล็ก ๆ ขึ้น



ทวีปแอฟริกา

        ทวีปแอฟริกาจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยมีแม่น้ำไนล์ซึ่งกว้างกว่าเดิมมากเป็นตัวแบ่งเขต โดยแม่น้ำไนล์นี้ จะวางอยู่ในรูปตัว Y ของกลางทวีป และไหลผ่านเส้นทางใหม่ คือ ไหลจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตรงปากแม่น้ำไนล์ ผ่านประเทศซูดาน และมีต้นกำเนิดแม่น้ำอยู่ที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้

       ขณะที่ทะเลแดง ซึ่งอยู่ตอนเหนือของทวีปจะขยายกว้างขึ้น ทำให้กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ และเกาะมาดากัสการ์เกือบทั้งหมดจมลงสู่ทะเล ทะเลสาบวิคทอเรียจะรวมเข้ากับทะเลสาบนยาซาไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดีย

        นอกจากนี้ยังมีแผ่นดินใหม่เกิดขึ้นในทะเลอาหรับ บริเวณตอนใต้ของประเทศโอมาน และยังมีแผ่นดินขนาดใหญ่เกิดขึ้นบริเวณทางเหนือ และตะวันตกของเมืองเคปทาวน์ด้วย

ทวีปอเมริกาเหนือ

         อ่าวฮัดสันในประเทศแคนาดาจะขยายตัวออกกลายเป็นทะเลปิดในประเทศ พื้นดินบริเวณชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ จะต้องถอยร่นเข้ามาในแผ่นดินอีก 200 ไมล์ เพราะพื้นที่เก่าถูกน้ำท่วมไปจนหมด ส่วนชาวเมืองที่อาศัยแถบบริติชโคลัมเบีย และอะแลสกา จะต้องอพยพมาอยู่ในควิเบก ออนตาริโอ มานิโตบา ซาสแกนเซวัน แอลเบอร์ตา จะกลายเป็นศูนย์กลาง ผู้ที่รอดพ้นหายนะระหว่างการเปลี่ยนแปลงในตอนต้น

         ส่วนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นที่แรกของโลก โดยแผ่นทวีปอเมริกาเหนือจะเกิดการโก่งตัว เกิดหมู่เกาะแคลิฟอร์เนียขึ้นอีก 150 เกาะ ต่อมาแผ่นเปลือกโลกแผ่นหนึ่งที่มุดตัวลงไปใต้อีกแผ่นหนึ่ง จะทำให้เกิดแนวโก่งตัวและรอยแยก นำไปสู่อุทกภัย ทำให้ ฝั่งทะเลด้านตะวันตกหดลงไปทางตะวันออกสู่รัฐเนเบรสกา ไวโอมิง และโคโลราโด ส่วนทะเลสาบ เกรทเลค (ประกอบด้วยทะเลสาบสุพิเรีย, ฮูรอน, มิชิแกน, อิรี และออนแตริโอ) และแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ จะเชื่อมต่อเข้ากับแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ไหลลงสู่อ่าว

        ขณะที่ประเทศเม็กซิโก น้ำจะท่วมจากชายฝั่งเข้ามาในแผ่นดิน ทำให้คาบสมุทรแคลิฟอร์เนียกลายเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่ของยูคาทาน พีนิซูลาจะหายไปในทะเล และจะเกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว ต่อเนื่องยาวนานถึง 25 ศตวรรษ

        ประเทศในอเมริกากลางและแคริบเบียนจะเกิดอุทกภัย จำนวนเกาะลดลง จะมีเส้นทางน้ำใหม่เกิดขึ้นจากอ่าวฮอนดูรัสไปออกที่เอลซัลวาดอร์ ส่วนคลองปานามาจะกลายเป็นคลองตัน

ทวีปอเมริกาใต้

         เนื่องจากมีหลายประเทศอยู่ในพื้นที่ "วงแหวนแห่งไฟ" ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทวีปอเมริกาใต้มากไม่แพ้ทวีปเอเชีย โดยจะเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดในประเทศเวเนซุเอลา โคลัมเบีย และบราซิล จะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในลุ่มน้ำอะเมซอนที่ประเทศเปรู และโบลิเวีย กลายเป็นทะเลในภายในทวีป ส่วนประเทศซานวาดอร์ เซาเปาโล ริโอดอร์จาเนโร และบางส่วนของ อุรุกวัย จะจมหายไปในทะเล

          ส่วนเมืองซัลวาดอร์ เซาเปาโล ริโอเดอร์จาเนโร ของประเทศบราซิล และบางส่วนของประเทศอุรุกวัยจะจมหายไปในทะเล ขณะที่ประเทศอาร์เจนตินาจะเกิดทะเลปิดขึ้นในตอนกลางของประเทศ และยังเกิดแผ่นดินขนาดใหญ่ทางตะวันตกของทวีป บริเวณประเทศชิลี รวมทั้งเกิดทะเลปิดขึ้นในบริเวณนั้นอีกแห่งด้วย

       ดูจากคำทำนายของนายกอร์ดอนที่ระบุไว้เป็น "แผนที่โลกใหม่" นี้ ก็คงต้องยอมรับว่า หากเป็นจริงคงจะน่ากลัวไม่น้อย แต่ ณ วันนี้ เราก็ไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะนี่เป็นเพียงคำทำนายเท่านั้น ฉะนั้นแล้ว โปรดใช้ดุลพินิจในการไตร่ตรองคำทำนายต่าง ๆ จะดีที่สุดค่ะ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก moeipit.com