ผู้หญิงดีๆหลายคนต้องกลายเป็นเมียน้อยบ้าง หรือมือที่สามบ้างโดยไม่รู้ตัว เพราะหลงเชื่อใจผู้ชายที่มาตีสนิทว่าเขายังโสดจริงอย่างที่พูด แต่ไม่ว่าเขาจะตลบตะแลงเก่งแค่ไหน แต่คนโกหกก็ต้องมีพิรุธให้จับได้เสมอ มาดูสิว่าเราจะรู้ได้อย่างไงว่าเขาโสดจริงๆ.....
1. ไม่ให้เบอร์บ้าน เวลาเป็นแฟนกัน คุณสาวๆไม่ควรจะขอแค่เบอร์มือถือของแฟน แต่ควรขอเบอร์ที่บ้าน และเบอร์ที่ทำงานไว้ด้วย ถ้าหนุ่มของคุณมีครอบครัวแล้ว เขาจะสู้หัวชนฝาไม่ยอมให้เบอร์บ้านมาโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้คุณโทรไปเจอเมียเขาเข้า ส่วนเบอร์ที่ทำงาน บางคนอาจไม่อยากให้เพราะกลัวเพื่อนร่วมงานจะเผลอเล่าข่าวเด็ดให้คุณฟัง หรือไม่ก็กลัวว่าถ้าคุณโทรไปบ่อยๆ เพื่อนร่วมงานของเขาอาจจะเม้าท์กัน จนข่าวลอยไปเข้าหูแม่ของลูก ถ้าเกิดผู้ชายบ่ายเบี่ยงไม่ให้เบอร์โทรศัพท์ คุณสาวๆจึงควรจะเช็คกันให้ถี่ถ้วน ว่าเบื้องหลังหนุ่มหล่อที่คุณคบ มีเมียสามลูกสี่ซ่อนอยู่หรือเปล่า
2. ไม่ให้โทรกลางดึก ถ้าหวานใจของคุณขีดเส้นตายเวลาโทรศัพท์เอาไว้ว่า ไม่ให้โทรหาหลังสามทุ่ม หรือกลางดึกห้ามโทร ผู้หญิงฉลาดควรจะลองของดูหลายๆครั้ง ถ้าโทรเท่าไรก็ไม่ติด เหมือนมีคนยกหูโทรศัพท์ออก ก็มั่นใจได้เลยว่าเขามีครอบครัวแล้ว ข้อนี้ผู้หญิงที่เคยถูกหลอกเขายืนยันว่า รับรองผลแน่นอน 100%
3. ไม่สวีทในที่แจ้ง ธรรมชาติของผู้ชายชอบแต๊ะอั๋ง ยิ่งถ้าอยู่ใกล้ๆผู้หญิงที่เขามีใจให้ เรื่องแตะเนื้อต้องตัว เดินจับมือ โอบเอว โอบบ่า กอด หอม นี่ต้องมาแน่นอน แต่ผู้ชายที่มีพันธะจะไม่ทำทุกอย่างที่ว่ามานี้ ในที่สาธารณะ ยิ่งถ้าไปเดินตามห้าง โรงหนัง คอนเสิร์ต ที่ผู้คนเขาชอบไปเที่ยวกัน เขาจะจ้ำพรวดๆ เว้นระยะห่างกับแฟนสาวเป็นเมตรเหมือนไม่ได้มาด้วยกัน นี่คือมาตรการเอาตัวรอดที่ผู้ชายพวกนี้จะใช้ เพื่อป้องกันเมีย หรือคนรู้จักของเมียที่อาจบังเอิญมาเห็นเข้า แต่เมื่อไรที่เข้าไปอยู่ในห้อง ในบ้าน ในรถ ที่สายตาคนนอกทะลุทะลวงมาไม่ถึง มือปลาหมึกของเขาจะเลื้อยยั้วเยี้ยะมาพันรอบตัวคุณอย่างว่องไวทันที
4. รถยนต์คันเก่ง ลิ้นชักหน้ารถเป็นจุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่ง ที่คุณผู้หญิงไม่ควรมองข้าม เพราะเวลาซื้อของแพงๆ เมียๆทั้งหลายมักจะชอบให้เป็นชื่อของตัวเอง พวกทะเบียนรถ พ.ร.บ. ใบเคลมประกัน จึงอาจจะเป็นชื่อภรรยาของเขาก็ได้ นอกจากนี้รถของผู้ชายที่มีผู้หญิงมานั่งบ่อยๆ มักจะตกแต่งด้วยของกุ๊กกิ๊กน่ารักๆ เช่นหมอน ตุ๊กตา ที่บังแดดภาพตัวการ์ตูน หรืออาจจะมีกลิ่นน้ำหอม เศษกิ๊บ ยางรัดผม ตุ้มหู ตกเอาไว้ ฉะนั้นเวลาขึ้นรถเขาอย่ามัวแต่ตากแอร์เพลินค่ะ ตรงไหนรื้อได้ควรจะรื้อดู (ยิ่งอะไรที่เขาไม่ให้รื้อยิ่งควรรื้อ) จะได้ไม่ถูกหลอก
5. เงินสดเท่านั้น สมัยนี้ใครๆก็ใช้บัตรเครดิตกันทั้งนั้น ยกเว้นพวกวัวสันหลังหวะ ที่กลัวจะมีหลักฐานให้สาวมาถึงตัว ชายมีพันธะจึงมักจะเลี่ยงไม่ใช้บัตรเครดิต เพราะกลัวว่าถ้าเมียมาตรวจรายการในสลิปแล้ว ตัวเองอาจงานเข้า เวลาคุณสาวๆไปกับเขา ถ้าเป็นไปได้ควรจะลองซื้อของแพงๆ อย่างเช่นเครื่องสำอาง เครื่องประดับ แล้วอ้างว่าเอาเงินสดมาไม่พอ ให้เขารูดบัตรเครดิตจ่ายให้ไปก่อน ดูซิเขาจะยอมไหม
6. คบเพื่อนไว้ไม่เสียหลาย ผู้หญิงบางคนถือคติว่าฉันจะคบแต่แฟนเพียงคนเดียว เขาจะพาไปแนะนำกับเพื่อนๆบ้าง ก็ไม่ยอมไป นี่ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเลย เพราะเพื่อนของเขานี่ละ ที่จะเป็นคนบอกให้คุณรู้ว่า ผู้ชายที่คุณคบมีนิสัยใจคอแท้จริงเป็นอย่างไร ภูมิหลัง วีรกรรมที่เคยทำไว้ มีเรื่องไหนจะย้อนกลับมาทำให้คุณปวดใจบ้างหรือเปล่า ถ้าเขามีครอบครัวแล้ว ต่อให้เขานัดกับเพื่อนไว้ดิบดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณสังเกตไปเรื่อยๆ มันก็ต้องมีหลุดกันบ้างละ เวลาเขาชวนไปพบเพื่อนฝูง คุณจึงควรจะรีบฉวยโอกาสไว้ทันที และพยายามผูกมิตรเอาใจเพื่อนเขาให้ดีๆ ไม่นานความลับของเขาก็จะรั่วมาเข้าหูคุณเอง
7. ไม่ยอมค้างคืน ไม่ได้จะแนะนำให้คุณสาวๆรีบรวบหัวรวบหางค้างคืนกับเขานะคะ แต่ถ้าในกรณีที่คุณกับเขาเผลอมีความสัมพันธ์ขั้นเรทเอ็กซ์กันไปแล้ว ถ้าเขายังโสด ไม่มีใครรออยู่ที่บ้าน เขาก็คงไม่มีปัญหาที่จะนอนค้างกับคุณไปจนถึงเช้า แต่คนที่มีภรรยาแล้วจะทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะขอร้องอย่างไรเขาก็ต้องหาข้ออ้างมาชิ่งกลับบ้านจนได้ นี่ก็เป็นข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งที่คุณควรจะระแวงไว้ ว่าเขาอาจไม่ซื่อสัตย์กับคุณ
8. ที่บ้านห้ามเข้า บ้านเป็นเขตอันตรายที่คนมีครอบครัวจะไม่ยอมให้คุณล่วงล้ำเข้าไปเด็ดขาด คุณสาวๆจึงน่าจะลองใจเขาเสียหน่อย แรกๆก็อาจจะทำกับข้าว หรือซื้อของเล็กๆน้อยๆฝากไปให้ที่บ้านเขาก่อน หลังจากนั้นก็โทรติดตามผล หรือขอให้เขาพาไปเที่ยวบ้านเสียเลย จะได้รู้ดำรู้แดงกันไปว่าโสดซิงหรือจิงโจ้
9. โทรศัพท์ต้องเช็ค ผู้หญิงมารยาทดี มีความมั่นใจในตัวเอง มักจะไม่ค่อยอยากละลาบละล้วง เช็คโทรศัพท์ของแฟน แต่เรื่องแบบนี้บางทีมันก็จำเป็นอยู่เหมือนกัน เพราะโทรศัพท์แค่เครื่องเดียวจะช่วยให้คุณตาสว่าง รู้จักแฟนตัวเองดีขึ้น เวลาเช็คอย่าลืมเปิดดูในช่องเมสเสจ ว่ามีข้อความอะไรฝากถึงเขาบ้าง และอย่าลืมจดเบอร์ที่โทรหาเขาบ่อยๆมาลองโทรเองด้วย ส่วนใหญ่เบอร์ที่โทรหาเขาบ่อยที่สุด ถ้าไม่ใช่กิ๊กก็หนีไม่พ้นภรรยาที่บ้าน คนใดคนหนึ่งนี่ละ
10. เม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะตอบคำถามของคุณ อาการเม้มริมฝีปากก่อนตอบคำถาม เกิดจากสัญชาตญาณของคนเราที่ต้องการซื้อเวลาเพื่อปั้นเรื่องโกหก ทุกอย่างที่เขาบอกคุณหลังเม้มปากอาจเป็นความจริงครึ่งเดียว หรือไม่ก็โกหกทั้งหมด เวลาคุณถามถึงเรื่องทางบ้านของเขา หรือถามว่าวันหยุดเขาจะทำอะไร ผู้หญิงที่รับโทรศัพท์คุณคราวที่แล้วเป็นน้องสาวเขาจริงหรือ ฯลฯ แล้วเขาเม้มปากก่อนตอบ คุณสาวๆควรป้อนคำถามขัดจังหวะเยอะๆ และพยายามสังเกตว่าเรื่องที่เขาเล่ามานั้น ตั้งแต่ต้นถึงตอนจบสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหรือเปล่า ถ้าจะให้ดีก็ลองถามย้อนกลับไปกลับมาหลายๆครั้ง เพราะคนที่โกหกมักจะจำไม่ได้ว่าเคยพูดเรื่องอะไรออกไปบ้าง
ที่มา--tvpoolonline.com