26.2.17

10 อย่างที่ควรทิ้งเพื่อความสุข

">> 10 อย่างในชีวิตที่คุณ “ควรทิ้ง” เพื่อชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น
1. ทิ้ง “ความอิจฉา” เมื่อคุณเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ มันจะดีก็ต่อเมื่อ มันเป็นแรงบันดาลใจให้คุณในการแข่งขัน และพัฒนาตัวเอง แต่มันจะเริ่มไม่ดี ถ้าความสำเร็จของคนอื่นทำให้คุณรู้สึกริษยา และไม่สามารถยินดีกับคนนั้นได้ นี่จะทำให้คุณทุกข์เอง
2. ทิ้ง “ความกลัวที่จะเปลี่ยน” หลายๆ ครั้ง แม้สถานการณ์ปัจจุบันมันจะแย่แค่ไหน คนเราก็ไม่อยากที่จะเปลี่ยน กลัวที่จะเปลี่ยน เพราะกลัวสิ่งใหม่ มากกว่า แต่คุณหารู้ไม่ว่า บางที่สิ่งใหม่มันอาจจะดีกว่าสิ่งที่คุณเจออยู่มากมายก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น กล้าที่จะเปลี่ยนเถอะ
3. ทิ้ง “ความคิดที่ว่า ทุกอย่างต้องอยู่ในความควบคุม” คนจำนวนไม่น้อย ชอบความเป๊ะ ชอบให้ทุกอย่างอยู่ในความควบคุม เป็นไปตามแผน แต่พอมันไม่เป็นไปตามนั้น ก็จะทุกข์ เพราะฉะนั้น ปล่อยวาง ทำให้เต็มที่ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็รับมันซะ ไม่มีอะไรที่เราควบคุมได้หมดจริงๆ หรอก
4. ทิ้ง “การทำงานที่มากเกินไป โดยเฉพาะ OT” เพื่อความสำเร็จ เพื่อหน้าที่การงาน หรือเพื่อเงิน ทำให้หลายๆ คนทำงานหนัก หนักเกินกว่าที่ควรจะเป็น เพิกเฉยความสำคัญของสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิต นี่ไม่ควรเลย เพราะสุดท้าย เมื่อคุณสำเร็จจริงๆ คุณจะเสียดายในหลายๆ อย่างที่คุณเสียไป และเอากลับคืนมาไม่ได้ อย่างเช่น เวลา หรือครอบครัว
5. ทิ้ง “การโทษคนอื่น หรือสิ่งอื่น” หลายๆ คน เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จะต้องหาสิ่งของ หรือ คนมารับผิดชอบให้ได้ ต้องโทษนู่น โทษนี่ตลอดเวลา เปลี่ยนจากแบบนั้น มาเป็นการนั่งมองที่ปัญหา และช่วยกันแก้ไขดีกว่านั้น
6. ทิ้ง “การบ่น หรือตำหนิตลอดเวลา” แทนที่จะบ่น ตำหนิ เรื่องไม่ดี ที่ไม่ได้ดั่งใจเราตลอดเวลา เปลี่ยนมุมมองใหม่ เป็นการตั้งสติ มองว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร และแก้ไขอย่างไร แบบนี้คุณจะมีความสุขขึ้นเยอะเลย
7. ทิ้ง “ความคิดที่ว่าจะต้องถูกเสมอไป” สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง การที่ต้องมานั่งเครียด กลัวว่าเราจะไม่ “สมบูรณ์แบบ” นั้น มันทำให้คุณไม่มีทางมีความสุขได้เลย ปล่อยวาง และยอมรับในธรรมชาติของมนุษย์เสียเถอะ
8. ทิ้ง “ความเชื่อที่จำกัดความสามารถคุณ” บางคนมักมีความเชื่อที่ว่า เราทำนู่นไม่ได้ ทำนี่ไม่ได้ เราทำได้แค่นี้แหละ พอแล้ว ความคิดเหล่านี้ เป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดในชีวิต ที่จะทำให้เราไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก หรือท้าทายไปสู่ความสำเร็จจริงๆ
9. ทิ้ง “เพื่อนแย่ๆ” มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และได้รับอิทธิพลจากคนรอบข้างค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น อยากเป็นคนแบบไหน การคบเพื่อนคือเรื่องสำคัญ ถ้าเพื่อนดี คุณก็ดีไปด้วย ถ้าเพื่อนไม่ดี คุณก็พลอยแย่ไปด้วยนั่นเอง
10. ทิ้ง “อดีต” อดีต คือประสบการณ์ที่มีทั้งดี และไม่ดี มันคือสิ่งที่สร้างตัวตนของเราขึ้นมา แต่มันไม่ควรเป็นสิ่งที่รวบรวมความเสียใจในอดีต และทำให้คุณก้าวไปไหนไม่ได้ เพราะฉะนั้น ถ้ามันเป็นแบบนั้น ปล่อยวาง และทิ้งมันไปบ้างก็ได้"
cr ความงาม

24.2.17

ใช้ชีวิตให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือด

"ใช้ชีวิตให้เหมาะกับ'กรุ๊ปเลือด'
""กรุ๊ปเลือด"" นอกจากจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตแล้ว ยังสามารถบ่งบอกถึงความแตกต่างของคนได้อีกด้วย
กรุ๊ป A
บุคลิกนิสัย: เป็นคนอารมณ์เยือกเย็นไม่ชอบการโต้เถียง ไม่ชอบเผยความรู้สึกแท้จริงต่อหน้าผู้อื่น เป็นคนสุภาพอ่อนโยน แต่ดื้อเงียบ ไม่กล้าตัดสินใจ เฉื่อยชา มีปัญหาเรื่องการบริหารเวลา และมักปล่อยจนดินพอกหางหมูเป็นประจำ
สุขภาพร่างกาย: กระเพาะอาหารของชาวกรุ๊ปเอมีความเป็นกรดน้อย เหมาะแก่การย่อยอาหารมังสวิรัติมากกว่าเนื้อสัตว์ เป็นคนที่ดูแลสุขภาพและรูปร่างของตนเป็นอย่างดี แต่ก็มีจุดอ่อนอยู่ที่การกินอาหารไม่ตรงเวลา และการใช้ชีวิตอย่างผิดสุขลักษณะ
อาหารกินดี : บรรพบุรุษของชาวกรุ๊ปเอ ปลูกพืชผักเพื่อดำรงชีวิตอาหารที่เหมาะกับพวกเขาจึงออกแนวมังสวิรัติเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นถั่วเหลือง, เต้าหู้, ปลา และผักผลไม้ รวมไปถึงธัญพืชต่าง ๆ
อาหารหลีกเลี่ยง: เนื้อสัตว์ทุกชนิด ชาวกรุ๊ปเอที่กินเนื้อสัตว์มากเกินไป อาจก่อให้เกิดการสะสมของสารพิษในเซลล์และเนื้อเยื่อจนเกิดโรคร้ายตามมา นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์นมเนยทุกชนิดเพราะกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้และหอบหืดทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง เกิดอาการท้องอืดเฟ้อ
กรุ๊ป B
บุคลิกนิสัย: คนเลือดกรุ๊ปบีมีบุคลิกร่าเริงสดใส มีความเป็นมิตรสูง ปรับตัวเข้ากับคนได้ง่าย ปราดเปรียวคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง นิสัยสบาย ๆ ไม่เคร่งเครียดทำให้เป็นที่รักของเพื่อนฝูง แต่มีข้อเสียตรงที่ไม่รอบคอบและเอาแต่ใจตัวเอง
สุขภาพร่างกาย: คนเลือดกรุ๊ปบีมีสุขภาพร่างกายและใจแข็งแรง รูปร่างกำยำแบบนักกีฬา มีระบบการย่อยอาหารที่สมดุลสามารถย่อยอาหารได้หลากหลายชนิดทั้งเนื้อสัตว์และผัก แถมยังมีความฉลาดทางอารมณ์อย่างน่าอิจฉา
อาหารกินดี : โชคดีจังค่ะ เพราะชาวกรุ๊ปบีสามารถทานได้ทั้งเนื้อสัตว์และผักผลไม้แถมยังถูกโฉลกกับผลิตภัณฑ์พวกนมเนยเอามาก ๆ เพียงแต่ต้องระวังปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินพิกัด เพราะเป็นคนอ้วนง่ายและชอบการรับประทานมาก ๆ
อาหารหลีกเลี่ยง: ไม่ควรทานอาหารทะเลเกือบทุกชนิด ยกเว้นปลาทะเล เพราะอาจขัดขวางการทำงานของเลือด ขณะเดียวกันก็ควรเลี่ยงการกินถั่วเกือบทุกชนิดรวมทั้งข้าวสาลีและข้าวโพด
กรุ๊ป O
บุคลิกนิสัย: เป็นคนเอาจริงเอาจัง มีความรับผิดชอบสูง มีความเป็นผู้นำสูง เป็นนักวางแผนที่ดี และมีความละเอียดรอบคอบ ชาวกรุ๊ปโอยังเป็นคนกล้าหาญและมีความเข้มแข็ง ไม่ค่อยท้อแท้เมื่อเจออุปสรรค โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีข้อเสียตรงที่มั่นใจในตัวเองสูง เพราะเป็นคนเก่ง บ่อยครั้งจึงถูกมองว่าเป็นคนหัวรั้นเอาแต่ใจตัวเอง
สุขภาพร่างกาย : กระเพาะของชาวกรุ๊ปโอมีสภาพเป็นกรดสูงกว่ากรุ๊ปอื่น ๆ สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้ดี และระบบเผาผลาญมีประสิทธิภาพมาก ยังโชคดีที่ไม่อ้วนง่าย สุขภาพค่อนข้างแข็งแรง
อาหารกินดี : เหมาะแก่การย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อปลา และสัตว์ปีกรวมถึงการกินอาหารทะเลกับผักใบเขียวซึ่งอุดมด้วยวิตามิน ช่วยการทำงานของต่อมไทรอยด์ และลดการเกิดลิ่มเลือด
อาหารหลีกเลี่ยง: ผลิตภัณฑ์จากนมเนยทุกชนิด มันฝรั่ง, ข้าวสาลี, แป้งสาลี, แป้งข้าวโพด, พืชตระกูลกะหล่ำ และเห็ดหอม ควรงดกาแฟซึ่งทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมากยิ่งขึ้นแล้วหันมาดื่มชาเขียวแทน ตามตำราระบุว่า ผลิตภัณฑ์จากนมวัวทำให้เกิดอาการแพ้และท้องอืด ส่วนเห็ดหอม มันฝรั่ง และมะเขือยาว ทำให้เกิดโรคไข้ข้ออักเสบ ร่างกายอ่อนแอได้
กรุ๊ป AB
บุคลิกนิสัย: เป็นกรุ๊ปเลือดที่พบน้อยที่สุด มีเพียงร้อยละ 5 ของประชากรทั้งโลก ชาวกรุ๊ปเอบีนิสัยใจคอเป็นคนมีเหตุผล เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีมนุษยสัมพันธ์ดี เป็นคนใจดีขี้สงสาร เป็นนักฟังและผู้ให้คำปรึกษาที่ดี แต่เวลาตัวเองมีปัญหามักเก็บงำไว้เงียบ ๆคนเดียว ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง และอารมณ์แปรปรวนขึ้นลงจนตามไม่ทัน
สุขภาพร่างกาย: เป็นคนรักสวยรักงามและใส่ใจรูปร่างหน้าตาอยู่เสมอ แต่ชาวกรุ๊ปเอบีมักมีปัญหาเรื่องระบบเผาผลาญของร่างกายทำให้ค่อนข้างตุ้ยนุ้ยเจ้าเนื้อ คนเลือดกรุ๊ปนี้มีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่ากรุ๊ปอื่น ๆ ระบบภูมิคุ้มกันไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เป็นโรคภูมิแพ้ มีอาการเหนี่อยง่าย
อาหารกินดี : เป็นคนที่มีกรดในกระเพาะอาหารน้อยอย่างชาวกรุ๊ปเอ แต่ก็สามารถกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ย่อยได้ง่าย เช่นเนื้อไก่ ปลาแซลม่อน ปลาทูน่า
อาหารหลีกเลี่ยง: ไม่ควรทานอาหารทะเลเกือบทุกชนิดยกเว้นปลาทะเล เพราะอาจขัดขวางการทำงานของเลือด ขณะเดียวกันก็ควรเลี่ยงการกินถั่วเกือบทุกชนิด รวมทั้งข้าวสาลีและข้าวโพด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ"