27.5.10

เดินตามฝัน...ของคุณ

 

เป็น fw; เก่าๆที่ได้มานานแล้ว" เดินตามฝัน...ของคุณ " 

เด็กชายอายุ 16 ปี คนหนึ่ง ชื่อว่า มอนตี้ ซึ่งคุณครูสั่งให้เขียนเรียงความเรื่อง "โตขึ้นอยากเป็นอะไร"

มอนตี้ก็เขียนบรรยายไป 7 หน้ากระดาษ ถึงความฝันของเขาที่จะเป็นเจ้าของคอกม้า พร้อมด้วยบ้านพื้นที่ 4,000 ตารางฟุต บนเนื้อที่ 200 เอเคอร์ เขาบรรยายพร้อมกับวาดแผนผังแสดงรายละเอียดไว้ทุก ๆ ส่วน แต่เมื่อเขานำไปส่ง... กลับได้คะแนน F และเรียกให้ไปพบหลังเลิกเรียน

หลังเลิกเรียน มอนตี้ ก็เข้าไปพบคุณครู และถามว่าทำไมเรียงความของเขาจึงได้ F ก็ได้รับคำตอบว่า "สิ่งที่เขาเขียนนั้นมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมันต้องใช้เงินมากมายเกินกว่าฐานะ เกินกว่าฐานะ ของครอบครัวของมอนตี้ จะสามารถทำได้" แม้ว่ามอนตี้จะชี้แจงให้ฟังว่ามันเป็นแค่ความฝันของเขา แต่คุณครูไม่รับฟังและขอให้มอนตี้ไปเขียนเรียงความมาใหม่ โดยขอให้เขียนถึงเรื่องที่มันพอจะเป็นไปได้บ้างแล้วจะแก้คะแนนให้

.................................

มอนตี้ก็กลับบ้านและนำปัญหานี้ไปปรึกษากับพ่อของเขา ซึ่งพ่อของเขาก็ให้คำตอบว่า "เรื่องนี้พ่อคงช่วยอะไรลูกไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกเอง แต่พ่อมีความรู้สึกบางอย่างว่า การตัดสินใจของลูกครั้งนี้ จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่ออนาคตของลูกอย่างแน่นอน"

มอนตี้ ใคร่ครวญกับเรื่องนี้อยู่เป็นสัปดาห์ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ เขานำเรียงความเรื่องเดิมไปส่งคุณครูพร้อมกับพูดว่า "ให้คะแนน F กับผมก็แล้วกัน ผมจะรักษาความฝันของผมไว้"

.................................

มอนตี้เล่าเรื่องนี้ให้กับผู้มาเยือนเขาฟังพร้อมกล่าวว่า "ที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้พวกคุณฟัง เพราะว่าขณะนี้มอนตี้กำลังนั่งอยู่หน้าเตาพิงในบ้าน พื้นที่ 4,000 ตารางฟุต ซึ่งตั้งอยู่กลางคอกม้าเนื้อที่ 200 เอเคอร์ และเรียงความ 7 หน้ากระดาษนั้น ได้ใส่กรอบเรียงอยู่เหนือเตาพิง"

และเขาได้เล่าต่อว่า "ที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ก็คือ ในฤดูร้อนเมื่อสองปีที่แล้ว คุณครูคนเดิมพาเด็กนักเรียน 30 คน มาพักค้างแรมที่นี่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจากไปท่านพูดกับผมว่า "มอนตี้ สมัยครูเป็นครูของเธอ ครูคงเป็น นักขโมยความฝัน ครูเสียใจนะที่ครูได้ขโมยความฝันของเด็กๆ ไปตั้งมากมาย แต่ครูก็ดีใจที่เธอไม่ยอมให้ครูขโมยความฝันของเธอ"



"เดินไปตามความฝันของคุณอย่ายอมให้ใครขโมยมันไปได้"

เรียบเรียงจากบทความเรื่อง "follow your dreams" คัดมาจากกระทู้ในห้องสวนลุมของ panthip.com
ที่มา : บ้านใส่ใจ www.carefor.org

ความหมายของสี




ที่มา-- http://www.facebook.com/home.php#!/profile.php?id=1476900114

บทกลอนดีๆ



ที่มา-- http://www.facebook.com/home.php#!/profile.php?id=1476900114

26.5.10

เอามาฝาก....





ไปอ่านเจอมาเลยเอามาฝากถ้าเป็นจริงทุกอันขนหัวลุกค่ะ

เนื้อความว่า>>>>>>

คุณ deknoi: การตามล่า รหัสลับ ดาวินชี “ตกใจ” ขุมทรัพย์ “บ้านตีนส่องหน้า” (มูลค่า 20,000 ล้านบาท) ได้เริ่มขึ้นแล้วครับ พ่อยก แม่ยก มิตรรัก แฟนเพลง ทั้งหลาย การจัดฉากครั้งนี้ อลังการณ์ งานสร้างจริงๆ ฉากจริง สถานที่จริง ทำการ เผาห้าง เผาธนาคาร จริงๆ เพื่อลับ ลวง พราง การแก้แค้น ธนาคารต่างๆ ที่ไม่ยอมให้ ผีห่าซาตานชั่ว ทักษิณ ชินวัตร นางแม่มดโฉด พจน์มาร ณ.บ้านตีนส่องหน้า รวมถึงบรรดาญาติๆ ถอนเงิน ที่ถูกรัฐบาล อายัด และยึดไว้เป็นของแผ่นดิน ออกจากธนาคาร จึงคิดแผนการอันสูงส่งเลวทรามขึ้นมา ทำการติดสินบน ข้าราชการระดับสูง ของ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมบัญชีกลาง รวมถึง เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของธนาคาร ด้วยเงินจำนวนที่โดนใจสุดๆ เพื่อให้ทำเป็น บ้าไบ้ถือใยบัว และแอบขยิบตา ส่งซิก ให้ ผู้จัดการสาขาต่างๆ ของธนาคาร อนุญาติให้ จอมมารโฉด ทักษิณ ชินวัตร นางแม่มดชั่ว พจน์มาร ณ.บ้านตีนส่องหน้า และบรรดาเครือญาติ ถอนเงินสดๆ ซิงๆ ใบละพัน เป็นจำนวนเล็กน้อยเพียง 20,000 ล้านบาท เศษๆ เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเงินจำนวนเล็กน้อยมาก เป็นเงินที่ถูกสั่ง อายัด และยึดไว้ เป็นของแผ่นดิน แล้ว และเป็นเงินสดๆ ก้อนสุดท้าย ที่เหลืออยู่ในประเทศไทย ของคู่ผัวหน้าตัวเมียคู่นี้ การที่รัฐบาล สั่งให้ระงับงด ทำธุระกรรมทางการเงิน อย่างเด็ดขาด และ ไม่มีเอกสิทธิ์ทางการฑูต ในฐานอดีตนายกรัฐมนตรี จึงไม่สามารถนำเงินออกนอกประเทศทาง สายการบิน ได้ มีทางเดียวคือ ต้องนำออก ทางทะเล เท่านั้น ดังนั้น จึงนำเอาเงินจำนวนดังกล่าว ยัดห่าใส่ ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อส่งไปยัง นคร สิงคโปร์ จึงมีการใช้ ฉากจริง ของจริง สถานที่จริง เผาจริงๆ !!! ที่ต้องจารึกไว้ใน ประวัติศาสตร์ของชาติไทยตลอดการ โดยมีเป้าหมายคือ ธนาคารต่างๆ ที่ไม่ให้ความร่วมมือ ในการถอดเงินครั้งนี้ ขณะเดียวกัน ก็สมนาคุณผู้มีอุปการะคุณ ด้วยความสะใจๆ สั่งเผา อาคารของ คู่อริทางธุรกิจ และศัตรูทางการเมือง เพื่อเป็นการ ลับลวง พราง ไม่ให้มีพิรุธ จึงใช้ รหัสลับ ดาวินชี “ตกใจ” ขณะที่เกิดความวุ่นวายนั้น ก็ได้ ติดสินบน หน่วยงานรัฐบาล เช่น การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมการส่งออก เป็นต้น ด้วยจำนวนเงินที่สะใจ อีกแล้วครับท่าน ให้ปล่อยข่าวลับ ลวง พราง ให้แก่บริษัทเอกชนที่จะส่งสินค้าออก ว่า ถ้ารัฐบาลสั่งให้ หน่วยงานรัฐบาล ที่เกี่ยวกับการส่งออก หยุดทำการ จะส่งผลกระทบต่อการส่งออก และทำให้บริษัทเสียหายได้ รัฐบาลจึงหลงกลไม่กล้า สั่งการให้หน่วยงานดังกล่าว หยุดทำการ เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ทุกประการ อีกแล้วครับท่าน ได้รับการยืนยันจาก หน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ ที่มีฐานบัญชาการอยู่ที่สิงคโปร์ว่า เงินดังกล่าวถึงท่าเรือสิงคโปร์แล้ว ซึ่งขณะนี้ นางสามาร พจน์มาร ณ.บ้านตีนส่องหน้า กำลังขอเจรจาท้าอ่วย กับ ชายน้อย Lee Hsien Loong นายกรัฐมนตรี สิงหนคร คนปัจจุบัน พ่อยอด ยาหยี ของ ซีอีโอ ผู้อำนวยการ โคตะระใหญ่ นางพญาสิงห์ร้าย Ho Ching แห่งเกาะนรก เทมาเซ็ก (Temasek) ฉายา เจ้าแม่ วิดีโอลิง ณ.ไทยคม เพื่อขอให้ช่วยหา ธนาคารเล็กๆ รับและเปลี่ยนเงินตรา เพื่อฟอกเงินจำนวนดังกล่าว เพราะเป็น เงินจำนวนน้อยมากเกินไป ไม่มีธนาคารไหนกล้ารับแลกเปลี่ยน เพราะไม่มีเงินต่างประเทศ พอให้แลก หุ หุ หุ หากการเจรจาครั้งนี้สำเร็จ รัฐบาลไม่สามารถยับยั้งได้ บอกได้คำเดียว ครั้งนี้ รัฐบวม พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย พ่อเท้าอุ่นตีนเย็น อภิสิท, พ่อไตรรงค์, พ่อกรณ์ นายแน่มาก บะรมมะโง่ แบบบูรณาการ จริงๆ ขอบอก และ ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ถูกแหกตา มวยล้ม ต้มคนดู ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ กรุงรัตนโกสินทร์ ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งในชีวิตของ นายใหญ่ แม๊ว ณ.มอนเตเนรโกร บอกสะใจจริงๆ ยิงปืนนัดเดียว ได้ เผาห้าง เผาธนาคาร ของคู่อริ ราบเป็นกองเพลิง และฉากต่อไป จะเป็นตอนสุด แผนผี สีน้ำเงิน ล้มรัฐบาล เลือกตั้งใหม่ สุดท้ายนี้ นายใหญ่ แม๊ว ณ.มอนเตรเนโกร ขอบขอบคุณผู้มีอุปการะคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

1. เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด อับดุลอาซิซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เจ้าของโคตะระเพชรสีน้ำเงินที่สวยที่สุด ผู้อนุเคราะห์ มหานคร ดูไบ เป็นฐาน วิดีโอลิงค์ ผู้คาดหวังว่า หลังศึกครั้งนี้แล้ว จะได้รับเพชรซาอุคืน และได้สัมปทานขุดเจาะก๊าซและน้ำมันดิบใน อ่าวไทย-เขมร

2. อัครมหา ทรราช ฮุนเซน มหาประมุข แห่ง แขมร์ ระทม นคร ผู้ต้องการกินหัวคิว สัมปทาน ก๊าซกรรมชาติ และน้ำมันดิบใน อ่าวไทย-เขมร

3. คุณ Ho Ching เจ้าแม่ วิดีโอลิง ณ.ไทยคม (Temasek) ผู้คาดหวังว่า หลังศึกครั้งนี้แล้ว รัฐบาล อภิสิท จะไม่มีโอกาส ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จากการแก้ไขสัญญาไทยคม ที่เกิดขึ้นในสมัย ทักษิณ

4. สื่อมวลชน หนังสื่อพิมพ์ ทีวี วิทยุชุมชนคนเสื้อแดง องค์กรเอ็นจีโอรับจ้างอิสระ อาจารย์มหาบรรลัย ที่อยากออก ทีวี นักวิชาการเก็บกด ผู้มีปัญหาทางเพศ ทั้งหลาย ที่ได้รับตัง และหรือ อยากดัง ที่ช่วยกันออกมา ตีฆ้อง ร้องเป่า เล่นโขน ผู้ทำให้ประชาชน ตื่นกลัว กลายเป็น แพะตื่นตูม วิตกจริต ว่ากำลังจะเกิด สงครามกลางเมือง ไม่กล้าออกมา ต่อต้าน ต่อสู้ หรือ ขัดขืน ยอมรับโดยสดุดีต่อ การข่มขืน ชะตากรรมของประเทศชาติ แบบบูรณาการ

5. พ่อท่าน พล ป.เตี้ย หัวหน้ากลุ่มผี เสื้อสีน้ำเงิน ที่ให้ลูกน้อย นายทหารเล็กใหญ่ ทั้งหลาย คอยยุแยง ตะแคงให้รั่ว กวนน้ำให้ขุ่น นำข่าวมาแจ้งแกนนำ นปช.แดงทุกครั้งหลังประชุม ศอฉ ไม่ให้ พ่อเท้าอุ่นตีนเย็น อภิสิท และ พ่อ อนุพง นำกำลังทหาร ออกมาสลายมอบ และคาดหวังว่า เมื่อเลือกตั้งใหม่แล้ว ตนเองจะได้เป็น นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกะโหกกะลา ตามแบบอย่าง พล.อ สุจินดา ณ.รสช

6. พ่อท่าน ชวารัต ชิโนตาย ณ.พรรคภูมิใจตาย พ่อมดรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของเมืองไทย ที่สั่งการให้ ผู้ราชการจังหวัดทั่วประเทศ ดูแล การชุมนุมประท้วง อย่างปองดอง โดย ห้าม สลาย ปราบปราม กลุ่ม นปช.แดง ห้าม ขัดขวาง กลุ่ม นปช.แดง ห้าม จับกุม กลุ่ม นปช.แดง ที่เผาศาลากลางจังหวัด อย่างเด็ดขาด ให้ยืนดูทำตาปิบๆ เอาปีบคุมหัว ด้วยความปองดอง ซึ่งน่าชมเชยมากนะ ขอบอก

7. เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมบัญชีกลาง การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมการส่งออก และ ผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร ทุกท่าน ที่มีน้ำใจ งามเหลือล้น ทนเหลือหลาย ที่อำนวยความสะดวกในการแอบให้ถอนเงินสดๆ ซิงๆ อันนี้ ปลื้มมากเลย ซิบอกไห่

8. ทีมงาน ที่ปรึกษา ยอดเยี่ยม (คณะที่ปรึกษาบ้านเลขที่ 111 เช่น กระสือหัวขาด สุดายักษ์ พายุเกย์)

9. ทีมงาน สนับสนุน ยอดเยี่ยม (กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย สส สว และ ผู้สนับสนุนพรรคทุกท่าน มักกะทายก เหลิม เป็ดง่อย)

10. ทีมงาน ผู้เขียนบทละคร ยอดเยี่ยม (นายทหารเตรียมรุ่น 10)

11. ทีมงาน ผู้กำกับการแสดง ยอดเยี่ยม (เพื่อนตำรวจร่วมรุ่น)

12. ทีมงาน ผู้แสดง ยอดเยี่ยม (ชายชุดดำปักธงชัย เช่น สทั้นแมน เสธแดง, พล.อ ชีวลิด พ่อแก่อาวไซเมอร์, เศษหมึก ผู้วางแผนพิฆาค บูรพาพยัฆค์ และ กลุ่มเคทองจอมซุ่มยิง)

13. ทีมงาน สะแปเชียลเอฟเฟก ยอดเยี่ยม (ชายชุดดำวังอีกาขาว ผู้เผาห้าง เผาธนาคาร)

14. ทีมงาน ตัวประกอบหลัง ยอดเยี่ยม (3 เกลอหัวขาด วีระ, จตุพร, ณัฐวุฒิ, และ หมอเหวงๆ, กี่ลูกหนี้จอมกร่าง)

15. ทีมงาน ประกอบฉาก ยอดเยี่ยม (หัวคะแนนพรรคเพื่อไทย ที่ปลงเพศ เป็น แกนนำ นปช.แดง ผู้เผาศาลากลางจังหวัด)

16. ท่าน ไดโน เสเนาะ ประทาน บริษัท รับซื้อขาย ที่ดินวัดโดยสุจริต รับจัดตั้ง รัฐบวย พรรค้ซาด แห่ง รัฐไปตายกันไหม 24 พ.ค. 2553 ,15:29 น.

ที่มา>>>>>>POST TODAY


อืมมม อ่านแล้วคิดว่าไง....

20.5.10

คุณคิดว่าไง(¬_¬) ???? กับผุ้ชายที่ชื่อ "ทักษิณ"

เป็น fw: ที่ได้ และน่าสนใจมาก เลยเอามาแบ่งปันเผื่อเพื่อนๆที่ไม่ได้รับอันนี้ 

 

แฉ ทักษิณ ปลุกม็อบแดง ขู่รัฐบาล คืนเงิน 7 หมื่นล้าน ประกาศลั่น “ไม่ทำตาม... ประเทศไทยฉิบหายแน่ !” 
ข้อสงสัยในความร่ำรวยของทักษิณ ชินวัตร มิได้อยู่ในวงจำกัดแค่คนไทย และในประเทศไทย 
คนทั้งโลกก็สงสัยว่าจริงๆ แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหนกันแน่ ? 
เพราะขนาดถูกอายัดทรัพย์ทั้งของตนเองและครอบครัว รวมกันกว่า 76,000 ล้านบาท แต่ ทักษิณ ก็ยังใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีติดอันดับโลก 
ทั้งๆ ที่ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมด ที่ทักษิณ แจ้งต่อคณะกรรมการป.ป.ช. นั้น ถูกอายัดไว้ ไม่สามารถนำไปใช้ได้แม้แต่บาทเดียว เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว 
แต่ 3 ปีที่ผ่านมา ทักษิณ สามารถเดินทางไปได้ทุกประเทศทั่วโลก ที่อยากจะไป ด้วยเครื่องบินส่วนตัว พักโรงแรมชั้นหนึ่งคืนละหลายแสนบาท ไม่เพียงแต่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แบบมหาเศรษฐีระดับโลก 
ทักษิณ ยังทุ่มเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ซื้อสโมสรฟุตบอลอาชีพ ในประเทศอังกฤษ และใช้เงินอีกเกือบ 500 ล้านบาท ซื้อคฤหาสน์หลังงามในอังกฤษ ให้ลูกสาวอยู่อย่างสุขสบาย ทั้งๆ ที่เงินทั้งหมดถูกอายัดไว้.! 
เท่านั้นยังไม่พอ ที่ทักษิณ เพิ่งอวดความร่ำรวยของตัวเอง ก็คือ จ่ายเงินซื้อเครื่องบินส่วนตัวอีก 1 ลำ ราคา 1,500 ล้านบาท 
จ้างฝรั่งเป็นกัปตัน และ แอร์โฮสเตสส่วนตัว ด้วยค่าจ้างเดือนละเกือบ 1 ล้านบาท ยังไม่นับรวมค่าจ้างเลขาสาว 3 คน และ รปภ.อีก 3 คน 
ไม่มีใครอิจฉาความร่ำรวยของทักษิณ แต่เป็นความสงสัยมากกว่าว่า ทักษิณ ไปทำอะไรมา จึงร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ทั้งๆ ที่ถูกอายัดทรัพย์ทั้งหมด และไปเอาเงินจากที่ไหนมาใช้ เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณบอกว่า ไม่ได้ทำธุรกิจ ประกอบอาชีพใดๆ เลย 
นอกจากทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาทที่ถูกอายัดในประเทศไทย 
ทักษิณ ยังถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์ ไว้อีก 140,000 ล้านบาท !!ทักษิณ ไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเอาเงิน 140,000 ล้าบาท มาจากไหน ได้มาด้วยวิธีการอย่างไร และได้มาตั้งแต่เมื่อไร 
ทักษิณ จึงถูกถอนวีซ่า ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีก พูดง่ายๆ ก็คือ ทักษิณ เป็นบุคคลที่ประเทศอังกฤษไม่ต้อนรับ :) ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านั้น ทักษิณ ได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ นานกว่า 1 ปี. 
ทำไมท่าทีของรัฐบาลอังกฤษต่อทักษิณจึงเปลี่ยนไป ? 
เพราะ ทักษิณ มีพฤติกรรมไม่ต่างจากอาชญากรเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก* ที่ตอบไม่ได้ว่าได้เงินมาอย่างไร 
เพราะ ประเทศไทย กลับคืนสู่สภาพปกติ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว 
เพราะทักษิณ มีสถานะเป็นนักโทษหนีคุก หนีศาล ไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมือง.!! นอกจากจะไม่เป็นที่ปรารถนาของอังกฤษ ทักษิณยังถูกบังคับให้ขายหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ออกจนหมด และถูกสโมสรลบชื่อออกจากทำเนียบประธานสโมสร ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในวงการฟุตบอลอังกฤษ 
ทักษิณโจมตีรัฐบาลอังกฤษ ว่าถูกรัฐบาลไทยแทรกแซง จนไม่กล้าให้วีซ่า และปฏิเสธคำขอเข้าประเทศอังกฤษ ของเขา 
ในเวลาไล่เลี่ยกัน บริวารของทักษิณ ก็กล่าวหาว่า ราชวงศ์ของไทยร้องขอให้ราชวงศ์อังกฤษสั่งห้ามรัฐบาลอังกฤษออกวีซ่าให้ทักษิณ 
การกล่าวหานี้ มีเป้าหมายให้เกิดผลกระทบต่อราชวงศ์และ สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และ ราชวงศ์ของอังกฤษอย่างร้ายแรง ในสายตาของชาวไทยและชาวโลก 
วันนี้ ปัญหาของทักษิณ ไม่ได้อยู่เงิน 76,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลไทยอายัด เพราะมีหลักฐานพอเชื่อได้ว่า มีที่มาจากการขายหุ้น ซึ่งหากทักษิณไปพิสูจน์ในศาล ก็เชื่อว่าน่าจะได้คืน 
แต่เงินก้อน 140,000 ล้านบาทที่อังกฤษอายัดไว้ต่างหากที่เป็นปัญหา ซึ่งทักษิณ ชี้แจงไม่ได้ว่ามีที่มาอย่างไร 
ใช่เงินของคนไทย ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทออกไปจากประเทศไทย หรือ ไม่ ? 
เป็นเรื่องผิดปกติอย่างมากที่คนต่างชาติคนหนึ่งมาอาศัยอยู่ในอังกฤษปีเศษ จะทำธุรกิจได้กำไร มีเงินทองกองอยู่ในอังกฤษ มากกว่า 140,000 ล้านบาท หากไม่โกง หรือ กอบโกยมาจากประเทศอื่น เรื่องแบบนี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ? 
ทักษิณ ถูกต้อนจนมุมคาจอโทรทัศน์ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี จนต้องสารภาพว่าเขาทำธุรกิจอยู่บนเกาะบริติชเวอร์จิ้น ซึ่งเป็นแหล่งฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก* 
เป็นไปได้ไหม ที่เงินจำนวน 140,000 ล้านบาทนี้ ถูกส่งออกจากประเทศไทย ไปฟอกที่เกาะบริติชเวอร์จิ้น ? แล้วถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในอังกฤษ ในชื่ออื่น ที่ไม่ใช่ ทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ก่อนจะเกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 
วันนี้ สิ่งที่ ทักษิณ ต้องทำ ก่อนที่จะคิดกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี มีอำนาจเหนือประเทศไทย อย่างที่พูดอยู่ทุกวัน ฝันอยู่ทุกคืน ก็คือ ชี้แจงให้ประชาชน ทราบ 4 เรื่อง ดังนี้ 

1. เงินที่งอกขึ้นมาเกือบ 50,000 ล้านบาท ก่อนที่จะเข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งแจ้งไว้กับป.ป.ช. ว่ามีอยู่ 25,000 ล้านบาท มาจากที่ไหน ? 

2. เงินจำนวน 140,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลอังกฤษ อายัดไว้ 
มีที่มาอย่างไร ? 

3. เงินมากกว่า 10,000 ล้านบาท ที่ใช้ลงทุนและซื้อทรัพย์สินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น เอามาจากที่ไหน ? 

4. เงิน 20,000 ล้านบาท หรือราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
ที่ทักษิณ บอกกับนักข่าวว่ามีเหลือติดตัวอยู่เท่านี้ 
เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ได้มาอย่างไร ? 

หากตอบคำถาม 4 ข้อนี้ไม่ได้ ก็ป่วยการที่จะคิดฝัน ถึงวันจะกลับมาเป็นผู้มีอำนาจเหนือประเทศไทยอีกครั้ง 
เพราะวันนี้คนไทยส่วนใหญ่ ตาสว่างแล้ว :D 
ตาสว่างพอที่จะมองเห็นว่า ทักษิณ วางแผนปลุกระดมคนเสื้อแดง ก่อความไม่สงบในประเทศไทย แล้วใช้เป็นเงื่อนไข บีบบังคับให้รัฐบาลต้องคืนเงิน 76,000 ล้านบาทที่อายัดไว้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ที่มาของเงินในศาล.! 
เปรียบกันง่ายๆ วันนี้ทักษิณจับประเทศไทย และประชาชนเป็นตัวประกัน ข่มขู่ให้คืนเงิน 76,000 ล้านบาทคืน 
หากไม่ทำตามที่เขาต้องการ... ประเทศไทยต้องฉิบหาย …. คนไทยต้องล่มจม.!! 
“เมื่อข้าอยู่ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าใคร หน้าไหน จะอยู่อย่างสงบ” นี่คือ ประกาศิตของทักษิณ ก่อนเคลื่อนพลใหญ่ 8 เมษายน นี้ 
คำถามก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ จะยอมให้ทักษิณ และ สมุน 
กระทำทารุณกรรมต่อประเทศไทย หรือไม่ ? 
๑ เมษายน ๒๕๕๒ 
แฉแผน ทักษิณ ใช้คนเสื้อแดง 
บังคับในหลวง นิรโทษกรรม* 
มีคำถามมากมายบนหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร สู้กับใคร ? และ สู้เพื่อใคร? 
ใครได้ประโยชน์บนการต่อสู้ของทักษิณ ? 
ประชาชน ได้อะไร และ ประเทศชาติ ได้อะไร ? 
การด่ากราด กล่าวหาองคมนตรี เป็นคณะเผด็จการ ทำลายประเทศ ทำร้ายประชาชน โค่นล้มประชาธิปไตย เป็นการตีวัวกระทบคราด ใช่หรือไม่ ? 
หาก องคมนตรี คือ วัว แล้ว ใคร คือ คราด ? พระเจ้าอยู่หัว คือ คราด ที่ ทักษิณ ต้องการให้ได้รับผลกระทบใช่หรือไม่ ? 
ทักษิณยังจงรักภักดีต่อในหลวงของเราจริงหรือ ?เรื่องราวที่ทักษิณ เปิดเผยกับประชาชน บนเวทีคนเสื้อแดง 
เป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นมานาน 3 ปี แล้ว และ ทักษิณ รู้เหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมดมาแต่ต้น แต่ไม่เคยนำมาพูด ไม่เคยบอกให้ประชาชนฟัง 

เพราะอะไร ทำไมทักษิณ จึงเก็บเงียบมานานถึง 3 ปี ทำไมจึงเพิ่งจะมาแฉ ความเลวร้ายขององคมนตรี ในสายตาทักษิณ และคนเสื้อแดง ในวันนี้ ? เพราะ การเจรจาต่อรองกับ ป๋าเปรม ไม่สำเร็จ นั่นเอง.! 

ทักษิณ ส่ง พจมาน ชินวัตร มาขอโทษป๋าเปรม และ ขอให้ป๋าเปรม ช่วยเจรจาคมช.. ให้ได้กลับเมืองไทย 

ทักษิณ ยกมือไหว้ขอโทษป๋าเปรม ในงานศพแม่ อนุพงษ์ เผ่าจินดา 

ทักษิณ ไปพบ ปีย์ มาลากุล 1 ครั้ง และส่ง พจมาน ไปพบอีก 2 ครั้ง ที่บ้านสุขุมวิท ซึ่งเป็นบ้านหลังเดียวกันกับที่ทักษิณ อ้างว่า เป็นสถานที่วางแผนก่อรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 

ทักษิณ โทรศัพท์เคลียร์กับ สนธิ บุญยรัตกลิน ปรับความเข้าใจ เป็นพี่น้องกัน หลังยึดอำนาจ 

คนทั้งหมดที่ ทักษิณ ไปพบและเจรจา เพื่อยุติปัญหา และความผิด เป็นคนกลุ่มเดียวกับที่ทักษิณ อ้างว่า 
เป็นผู้ก่อการยึดอำนาจ ทำลายประชาธิปไตย.! นี่หรือคือพฤติกรรมของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ? 

การแอบเจรจา คบหาสมาคมกับผู้ก่อการรัฐประหาร ย่อมไม่ใช่วิสัยของผู้รักประชาธิปไตย อย่างแน่นอน จริงหรือ 
ไม่? 
ที่ผ่านมา ทักษิณ ไม่พูดเรื่องเหล่านี้ เพราะเจรจากันอยู่ แต่ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนกฎหมาย ช่วยแก้ไขความผิด ให้ถูกต้องได้ 
ทักษิณ จึงโกรธแค้น และ ออกมา ฉะ แฉ ฉาว ทุกคน ที่ไม่ทำตามในสิ่งที่เขาร้องขอ และ ข่มขู่ 
เหมือนกับจะรู้ชะตากรรมล่วงหน้า แต่แท้จริงแล้ว เป็นเพราะทักษิณ รู้ดีว่าบทลงโทษของการกระทำในอดีตที่ผ่านมา คืออะไร ? 
ทักษิณ จึงอาศัยจังหวะที่ศาลอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ ไปร่วมชมพิธีเปิดโอลิมปิกส์ ที่ประเทศจีน แล้วก็ไม่เดินทางกลับมาประเทศไทยอีกเลย จึงกลายเป็นผู้ต้องหาหนีหมายศาล 
เมื่อศาลตัดสินว่ามีความผิด ทักษิณ จึงมีสภาพเป็นนักโทษหนีคุกทันที หลังจากถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ทักษิณ กลับบอกว่าศาลไม่เป็นธรรม ไม่ให้โอกาสสู้คดี ทั้งๆ ที่หนีไปเอง 
เมื่อตกอยู่ในสถานะนักโทศหนีคุก ทักษิณ บอกว่า เขาจะกลับประเทศไทย เพื่อมาต่อสู้ และเรียกร้องความเป็นธรรม ร่วมกับประชาชน 
การโฟนอิน เมื่อครั้งคนเสื้อแดงชุมนุมที่สนามกีฬารัชมังคลาภิเษก ทักษิณ บอกว่าเขาจะกลับประเทศไทยได้ ด้วย 2 วิธี 
คือ 1.ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และ 2. คนเสื้อแดงพากลับ 
ทักษิณ บอกว่าต้องการได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่เขาไม่เคยขออภัยโทษ และประกาศว่าไม่มีวันที่จะขออภัยโทษด้วย.! 
ชัดไหมว่า ทักษิณ ไม่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ในสายตา ม่ได้เคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
ทักษิณ เชื่อว่าเขาจะปลุกระดมมวลชน ให้มีจำนวนมากพอที่จะมายืนล้อมตัว และเป็นโล่ห์มนุษย์ ป้องกันเขาจากการถูกจับกุมของเจ้าหน้าที่รัฐได้ 
ทักษิณ แสดงให้เห็นว่าสุดท้ายแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะต้องพระราชทานอภัยโทษ ให้เขา ตามแรงกดดันของมวลชนคนเสื้อแดง ที่เขาปลุกระดมขึ้นมา 
ทักษิณ กำลังใช้กฎหมู่มาทำลายกฎหมาย 
ทักษิณ กำลังเอามวลชนมาบีบพระเจ้าอยู่หัว ให้อภัยโทษ โดยที่เขาไม่ต้องร้องขอ เหมือนผู้ต้องคำพิพากษาของศาลรายอื่นๆ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 
หากทำสำเร็จ ก็เท่ากับว่าทักษิณ มีอำนาจเหนือพระมหากษัตริย์ 
หาก ทักษิณ สามารถบังคับให้พระมหากษัตริย์ ทำตามที่ตนต้องการได้ทุกอย่าง แล้วประชาชน จะอยู่ได้อย่างไร ? 
คนไทยจะยอมได้หรือ หากว่าพระมหากษัตริย์ที่เราเคารพรักและเทิดทูนอยู่เหนือสิ่งอื่นใด จะต้องทำตามคำสั่งของทักษิณ ? 
เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ท่านจะตกเป็นเหยื่อ เป็นเครื่องมือของทักษิณ เพื่อลบล้างความผิดของตนเอง ล้มล้าง และทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกหรือไม่ ? 
ถอยออกมาให้ห่างจากคนเสื้อแดง.! หลีกเลี่ยงการตกเป็นเครื่องมือของทักษิณ 
เพื่อปกป้องรักษา สถาบันพระมหากษัตริย์ ของคนไทยทุกคน 


17.5.10

อ่านซะ...จะได้ตาสว่างกันเสียทีว่าคนนี้(ทักษิณและอีกหลายๆคน)เค้าทำและคิดอะไร....(แล้วจะซึ้ง)

เป็นข้อความทีอ่านแล้วกลัวใจมาก กลัวการเปลียนแปลง กลัวหลายๆ เราเคยคิดอยากจะรู้เหมือนกันว่ามันมีกันจำนวนเยอะแค่ใหนกัน หรือเป้นขนาดองค่กรใหญ่ เหมือนอย่างวัดธรรมกาย ที่เคยๆอ่านกัน เคยพูดเปรยกันในหบรรดาเพื่อน ก็โดนเพื่อนล้อว่า"บ้า" จนวันนี้ก็ได้พบเห็นข้อความในลักษณะอย่างที่เราคิดไว้จริงๆ ทำให้เรารู้และลบคำแซวของเพื่อนๆได้ว่า "กรูไม่ได้บ้าว่ะเพื่อน" ก็เลยก๊อปข้อความของเค้ามาฝากให้ดูกัน>>>>

 

http://amigos4ever.thport.com/index.php?PHPSESSID=e84959c21a09bbdd0e150d6e9b8e5bdb&topic=547.msg2249

wanna_be_mylove 
อ่านซะ...จะได้ตาสว่างกันเสียที 
« เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 06:09:05 »

เรื่องคาดไม่ถึง...ที่ทุกคนต้องอ่าน.....โดยเฉพาะใครที่เริ่มออกอาการโหวงเหวง (อ่านซะ..จะได้ตาสว่างกันเสียที)

ว่าจะเขียนเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว แต่เรียบเรียงความคิดไม่ได้ซักที มันเยอะแยะไม่หมดในสมอง แต่ไหนๆ ก็ไหนแล้ว ลองดูซักตั้ง 

เวลาที่ผ่านมาสองสามอาทิตย์นี้ หลังเลิกงานทุกวัน แทนที่จะกลับบ้านมาแล้ว เข้ากบตามที่เคยทำปกติ ก็ไม่ทำแล้ว ไปเข้าห้องแชท ที่อื่นแทน ห้องแชทที่ว่านี้ สนุกว่าในกบเยอะแยะ เพราะได้เปิดหูเปิดตาอะไรๆอีกมากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่า เข้่าไปแล้ว จะไปเอนเอียงตามที่เค้าพูด (เห่าหอน)กันในนั้นหรอกนะคะ เพียงแต่ได้เข้าไปเห็นแผนการอันชั่วร้ายของบุคคลบางกลุ่ม

ไม่อยากจะบอกหรือเอ่ยถึงเวบไซค์ที่ว่านี้หรอกนะคะ เพราะอาจจะนำทางให้คนบางคนที่จิตใจอ่อนแอ หลงเข้าไปแล้ว อาจถูกล้างสมองได้ง่าย เราเข้าไปเป็นสองสามอาทิตย์แล้ว แต่ก็ไม่โดนล้างสมองได้ (พ่อเราบอกว่า เราหัวแข็ง ล้างยาก ฮ่าาา) แต่เวบไซค์ที่ว่านี้ ก็บังเอิญไปเกี่ยวพันกะเหตุการณ์ทางเมืองไทย อย่างชัดเจน มันตั้งชื่อว่า องค์กรเสื้อแดงระหว่างประเทศ (RSIO) มีเครือข่ายอยู่ทั้งหมด 38 ประเทศ แม่ข่ายใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา นิวยอร์คและแอลเอ มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 22 รัฐ เมืองไทย มีผู้เข้ารายงานตัวกับเครือข่ายนี้แล้ว 63 จังหวัด

จริงๆแล้ว ข้อเขียนต่างๆ ที่โพสไว้ทั้งหมด เพิ่งเริ่มมา เมื่อตอนต้นปี 2553 ก่อนจะเริ่มการชุมนุมไม่นาน เป็นที่น่าสังเกตว่า มีการวางแผนไว้อย่างดี โดยเตรียมการที่จะออกข้อมูลต่างมาโจมตีสถาบันก่อนที่จะเกิดการชุมนุมขึ้น เมื่อออกข้อมูลออกมาโจมตี ก็ให้แกนนำนำผู้คนออกมาชุมนุมแล้ว กลุ่มนี้ ก็ทำการกระจายข่าว ข้อมูลที่สร้างขึ้นมา เข้าสู่กลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งมีจิตใจที่เอนอียงอ่อนไหวอยู่แล้ว เป็นการเข้าถึงจุดยุทธศาสตร์ได้เป็นอย่างดี เวบไซต์นี้ มีผู้เข้า วันละประมาณ 5 - 7 พันคน มีผู้เข้า เกิน 1 ล้านคน มีการกระจายเวบลิงค์ต่างๆ ไปทั่วเครือข่ายทุกมุมโลก วันละ หมื่นกว่า เวบเพจ

หน้าที่หลักๆ ของขบวนการนี้
1. เป็นขบวนการใต้ดิน ที่สร้างขึ้น เพื่อสื่อสารต่อเป็นร่างแห เพื่อโจมตีและล้มล้างสถาบัน โดยการส่งเวบลิงค์และข่าว ข้อมูลเท็จตามแนวทางของกลุ่มไปให้ ทาง ฟอร์เวิร์ดเมล์ เวบลิงค์ต่างๆ ( ฟ้าเดียวกัน อีนิวส์ นิวสกาย...) สื่อสิ่งพิมพ์ ต่างประเทศ ตลอดเวลาทั้งภาษาไทยและภาษาอังฤษ รวมทั้งภาษาอื่นๆ 

2. ออกวิทยุกระจายเสียง ทีวี เพื่อชักจูง ให้กับคนฟัง รับฟังข่าวสารด้านเดียวแล้วนำไปบอกต่อๆกันไป

3. จัดตั้งห้องแชทออนไลน์ เพื่อให้ผู้คนเข้ามาโจมตี และส่งข้อความหยาบคายโจมตีสถาบันทุกๆวินาที ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้ต่างชาติได้รับรู้

4. จัดทำคลิป และสิ่งพิมพ์ต่างๆออกไปในอินเตอร์เนตและเผนแพร่ให้ฝ่ายชุมนุมทราบตลอดเวลา ทุกๆชั่วโมง โดยนำหลักการของกลุ่มสอดแทรกเข้าไป เพื่อให้ประชาชนมองการทำงานของรัฐบาลในทางลบ (นี่เป้นจุดอ่อนของรัฐที่พยายามเสนอข่าวเข้าข้างตัวเองมากไป ประชาชนเลยเกิดความคลางแคลงใจ ติดตามข่าวเอง แล้วไปเจอกับข้อมูลที่ออกมาจากกลุ่มนี้ เลยเกิดความเชื่อถือได้โดยง่าย)

5. จัดทำหนังสือต่างๆ และซีดีออกจำหน่าย ให้คนทั่วไปโดยสอดแทรกแนวคิด ของกลุ่มเช่นเดียวกัน จะสังเกตได้ว่า ไม่ว่าหนังสือที่นักวิชาการไหนก็ตามเขียน หรือคอลัมน์ตามหนังสือพิมพ์ต่างๆ ที่ออกมาในเครือข่ายของเสื้อแดง จะออกมาในลักษณะเดียวกันหมด ทั้งนี้ เพราะมาจากหลักการคิด และข้อมูลผิดๆ ที่มีอยู่แล้วในเวบไซค์นี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่คนไทยเข้าใจ แล้วตื่นตูมไปตามสื่อที่ออกมา

6. การบอกเล่ากันต่อๆกันไปเป็นลูกโซ่ เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดสำคัญของขบวนการนี้ โดยเล่าให้ฟัง หรือรับรู้มาจากห้องแชท แล้วให้นำไปเล่าต่อกันไป ส่วนมากผู้ที่เข้ามาในห้องแชทนี้ จะเป็นคนไทย ที่อยู่ต่างประเทศ ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวคราวของเมืองไทย หรือติดตาม แต่รับรู้มาจากเมืองไทย เพราะมีญาติพี่น้องที่เป็นสีแดง เลยมาช่วยติดตามข่าวให้ แต่มีจิตใจเอนเอียงอยู่แล้ว ก็เลยรับข่าวสารผิดๆ ไปได้อย่างเต็มรูปแบบ 

จุดประสงค์หลักของขบวนการนี้ เพื่อสร้างความแตกแยกให้กับประเทศไทย ล้มล้างการปกครอง แบ่งแยกประเทศไทยออกเป็นรัฐ แล้วนำผู้ที่ต้องคดี ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศทั้งหมด กลับเข้ามาในประเทศ แล้วมาปกครองรัฐต่างๆ ที่ถูกแยกออกมา โดยใช้ระบบการปกครองตามแบบลัทธิคอมมิวนิสต์ ซึ่งในขณะนี้ กลุ่มนี้ ใช้คำว่าประชาธิปไตย เพื่ออ้าง ให้เข้ากับกลุ่มผู้ชุมนุม 

หลายคนที่มีจิตใจเอนเอียงไปตามความคิดของกลุ่มเสื้อแดง อาจคิดว่า เรื่องนี้ อยู่ไกลเกินตัว ที่จะเป็นไปได้ แต่จริงๆแล้ว หารู้ไม่ว่า กระบวนการนี้ ได้แทรกซึมเข้าไปอยู่ในจิตใจ โดยไม่รู้ตัว เพียงแค่เข้าไปรับข่าวสารที่ออกมาจากด้านนั้น (ซึ่งก็ออกมาจากที่เดียวกันนั่นเอง) ก็จะเริ่มเอนเอียง และยอมรับในสิ่งที่กลุ่มนี้ กำลังพยายามซึมซับให้นั่นเอง 

การเผยแพร่ข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง ของกลุ่มนี้ ออกทางโลกไซเบอร์แล้วให้ไปบอกเล่าต่อๆกันไป ถือเป็นช่องทางสำคัญของกระบวนการนี้ กลุ่มนี้มีการแพร่ข้อมูลออกไปรวดเร็วกว่าไวรัสเสียอีก แต่เนื่องจากความล่าช้าและความอ่อนแอ ของระบบราชการไทย จึงตามไม่ทัน การแพร่กระจายของสารร้ายที่ออกไป กว่าที่จะตามไปแก้ไขได้ทัน มะเร็งร้ายก็คงลุกลามไปถึงอวัยวะสำคัญของร่างกายแล้ว รักษาอย่างไรก็คงจะไม่ทันการ 

ถึงเวลาแล้ว ที่คนไทยทุกคน ที่ยังถือมั่น ยึดมั่น อยู่ในความคิดเดิม ว่าประเทศไทยอยู่ได้อย่างสงบสุขโดยการประครองระบบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต้องออกมาช่วยกัน แสดงพลังความคิด พลังใจ แสดงออกมาให้ทุกคนและทั่วโลกได้รับรู้ ว่าเรายังมั่นคงเหมือนเดิม จะเก็บไว้ในใจอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว อย่างน้อยก็แสดงออกมาให้คนอื่นได้รู้ จะได้ไม่รู้สึกกังขา ว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่ แล้วเป็นการนำพาซึ่งความแตกแยก ร้าวฉานดังที่ได้เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้

เขียนมายืดยาว.. ไม่รู้ว่าจะอ่านกันจบหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เพียงแค่จะบอกให้ทุกคนได้รับรู้ว่า สิ่งที่เราทำไป เพื่อแสดงถึงจุดยืน ของความเป็นคนไทย ที่ยังรักประเทศไทยและ สถาบันทุกสถาบัน ยังอยากเห็นธงชาติไทย ที่ประกอบด้วย สีแดง น้ำเงินและขาว สะบัดอยู่ในองค์การสหประชาชาติอย่างสง่างามเช่นเดิม...

เรา..ซึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่ไม่ได้อยู่เมืองไทย จะไม่ทำอะไรเลยก็ได้ เพราะชีวิตของเราเอง ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว จะเปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกันเมื่อไหร่ ก็ทำได้ แต่เรายังไม่ทำ เพราะยังอยากเป็นคนไทย 100 % ไม่จำเป็นต้องมาเครียด มาเขียนอะไรก็ได้ เพราะไม่ได้เงินจากใคร เงินเราก็ไม่จำเป็นต้องหาเพิ่มเพราะ มีงานที่ดีทำ (เงินเดือนอาจมากกว่า สส.หรือนักการเมืองหลายๆคนด้วยซ้ำ) เราจะนั่งดูเฉยๆ ไม่ทุกข์ไม่ร้อนก็ได้ เพราะอย่างไรเสียเราก็คงไม่กลับไปใช้ชีวิตที่เมืองไทยอีกแล้ว แต่...เพราะ เรายังรักประเทศไทย นี่ไง เป็นคำตอบเดียว ที่ทำให้เราต้องมานั่งพิมพ์บทความนี้ให้อ่าน (หรือไม่อ่าน)กัน

แล้วคุณล่ะ.....จะนิ่งเฉยอยู่ได้อีกหรือ....................??????????

หรือตามไปอ่านที่ต้นห้องได้

http://amigos4ever.thport.com/index.php?PHPSESSID=e84959c21a09bbdd0e150d6e9b8e5bdb&topic=547.msg2249