5.8.10

อลัน เบท ปั่นจักรยานรอบโลก ถวายในหลวง

.....อดีตนักปั่นจักรยานทีมชาติอังกฤษ มร.อลัน เบท ฝรั่งหัวใจไทย วัย 45 ปี ท่านนี้ปั่นจักรยานรอบโลกเส้นทาง 29,500กม.รอบโลก ผ่าน 110 เมืองสำคัญ ใน 19 ประเทศเป็นตัวแทนประกาศความรักอันยิ่งใหญ่ของคนไทยที่มีต่อในหลวง ให้ชาวโลกรับรู้...

 
......อดีตนักปั่นจักรยานทีมชาติอังกฤษ มร.อลัน เบท ฝรั่งหัวใจไทยวัย 45 ปี ชายชาวลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ อาจเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก เพราะเขาเป็นนักปั่นจักรยานฝีมือดี ติดอันดับท็อปเทนของโลก แต่สำหรับคนไทยแล้ว "อลัน เบท" อาจจะกลายเป็นแค่เพียงชาวต่างชาติที่มาปั่นจักรยานเที่ยวเมืองไทย แล้วก็กลับไปเหมือนคนอื่น ๆ หากไม่ใช่เช่นนั้น เพราะเมื่อ "อลัน เบท" มาเที่ยวเมืองไทย ได้สัมผัสวิถีชีวิตเมืองไทยแล้ว มันทำให้เขาซับความเป็นไทย และมีดวงใจจงรักภักดีต่อพ่อหลวง เหมือนคนไทยทั่ว ๆ ไปในแผ่นดินสยามเมืองยิ้ม และทำให้นาย "อลัน เบท" อยากมีสัญชาติไทย อยากเป็นคนไทย และอยากใช้ชื่อไทยว่า "นายอิสระ" 

 
.... "อลัน เบท" เริ่มปั่นจักรยานมาตั้งแต่อายุ13 ปี โดยเลิกเล่นรักบี้ที่เขารักมาคลุกคลีอยู่กับรถสองล้อ ทำให้ครอบครัวของ "อลัน เบท" ไม่พอใจเป็นอย่างมากจนไม่ยอมพูดคุยกับเขาเกือบปี แต่แล้วเมื่อ "อลัน เบท" เข้าแข่งขันขี่จักรยานและได้รับรางวัลมามากมาย พ่อของเขาจึงยอมยกโทษให้ และตั้งแต่นั้นมา "อลัน เบท" ก็ขี่จักรยานหาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด โดยอลัน เบท พูดเสมอว่าที่เขาชอบขี่จักรยานก็เพราะยามที่ได้นั่งอยู่บนอาน เขาได้สัมผัสถึงชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติอีกทั้งการขี่จักรยานจะเป็นการสร้างมิตรภาพที่ดีเพราะตลอดเส้นทางที่ขี่จะนำเพื่อนใหม่ ๆ มาให้ชีวิต

 
.....ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ.2548 "อลัน เบท" ได้ฝึกซ้อมจักรยานเตรียมเข้าแข่งขันไปยังประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา และไทย แต่แล้วกลับเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานตกเหวทำให้ "อลัน เบท" ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่เชียงของและน้ำใจของคนเชียงของนี่เอง ที่เป็นเหมือนมนต์สะกดให้ "อลัน เบท" ตัดสินใจแต่งงานกับภรรยาคนไทย และใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ กับลูกชายตัวเล็ก ๆหนึ่งคนที่สามารถใช้ได้ 2 สัญชาติ แต่ "อลัน เบท" กลับเลือกให้ลูกชายใช้เพียงสัญชาติไทยเพียงอย่างเดียว
.....ตลอดเวลาที่ "อลัน เบท" ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยเขาต้องการเผยแพร่ความรู้เรื่องจักรยานให้เยาวชนได้รับรู้ จึงได้เช่าบ้านเล็ก ๆ ไว้หลังหนึ่งเพื่อเปิดพิพิธภัณฑ์จักรยาน โดยรวบรวมจักรยานโบราณไว้มากมายในชื่อว่า "เดอะ ฮับ" จากนั้น "อลัน เบธ" มีโอกาสได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากคำบอกเล่าของภรรยา และยังได้เข้าเยี่ยมชมโครงการในพระราชดำริต่าง ๆของพระองค์ จึงรู้สึกปลาบปลื้มในน้ำพระทัยเป็นอย่างมาก และยังมองว่า สิ่งที่พระองค์ทรงปฏิบัติทั้งหลายทั้งปวงก็เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี ซึ่งครอบครัวของ "อลัน เบท" ก็คือส่วนหนึ่งของสังคมไทยที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวง นั่นจึงทำให้ "อลัน เบท" คิดโครงการปั่นจักรยานเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้น
...และอลัน ต้องการทำลายสถิติโลกเดิมเพื่อให้สถิติใหม่นี้ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ตราบนานเท่านานว่าเป็นการปั่นจักรยานรอบโลกในระยะทางที่ไกลที่สุดด้วย ระยะเวลาที่สั้นที่สุด ที่ทำด้วยความรักและเทิดทูนของคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีต่อ “พ่อ” ของแผ่นดินไทย

 
... การเดินทางครั้งแรกของ "อลัน เบท" เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2549 โดยเขาปั่นจักรยานจากเชียงใหม่-กรุงเทพฯ รวมระยะทาง 760 กิโลเมตร ใช้เวลา 26.04 ชั่วโมง ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2550 เขาปั่นจากภูเก็ต-กรุงเทพฯ ด้วยระยะทาง 860 กิโลเมตร ใช้เวลา 29.15 ชั่วโมง และครั้งที่ 3 อลัน เบท เดินทางจาก อ.เชียงของ เข้าตัวเมืองเชียงรายด้วยระยะทาง 105 กิโลเมตร ใช้เวลา 2.42 ชั่วโมง ซึ่งการปั่นจักรยานทั้ง 3 ครั้งของ อลัน เบท สามารถทำลายสถิติโลกได้ทั้งหมด และทุกครั้ง "อลัน เบท" ยังเริ่มเดินทางในวันที่ 5 ธันวาคมด้วย

 

...และครั้งล่าสุด "อลัน เบท" ได้ลงมือทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ปั่นจักรยานถวายในหลวง เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2553 โดยก่อนเดินทางรอบโลก "อลัน เบท" ได้ไปร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่โรงพยาบาลศิริราช จากนั้นเขาได้เดินทางไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า สถานที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ โดยแผนการของ อลัน เบท คือการเริ่มปั่นจักรยานลงใต้ไปสู่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ นั่งเครื่องบินข้ามไปยังออสเตรเลีย ปั่นต่อไปที่นิวซีแลนด์ ซานฟราสซิสโก นิวยอร์ก แคนาดา อาร์เจนตินา อุรุกวัย บราซิล โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส ลอนดอน ย้อนกลับไปฝรั่งเศสอีกครั้ง เพื่อข้ามฝั่งไปยังเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมนี ตุรกี อินเดีย พม่า และมุ่งสู่เชียงของ ก่อนจะมาสิ้นสุดระยะทางที่กรุงเเทพฯ อันเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้จะปั่นจักรยานผ่าน 20 ประเทศ ด้วยระยะทางกว่า 29,500 กิโลเมตร ที่ไม่นับรวมการเดินทางโดยรถยนต์ และเครื่องบิน ภายในเวลา 165 วัน และอีกหนึ่งความหวังของ "อลัน เบท" ที่มีต่อการปั่นจักรยานครั้งนี้คือ การทุบสถิติของ "จูเลี่ยน ซาเยอร์" ที่ได้ปั่นจักรยานรอบโลก ระยะทาง 28,970 กิโลเมตร ในเวลา 165 วัน และฝรั่งหัวใจไทยคนนี้เค้าก็ทำใด้สำเร็จ
...แน่นอนว่า ความพยายามของ "อลัน เบท" ที่จะปั่นจักรยานถวายในหลวง ยังไม่จบอยู่เพียงเท่านี้ เพราะเขาได้คิดโครงการปั่นจักรยานรอบโลกขึ้น ด้วยความปรารถนาที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมไทย และบอกเล่าพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ออกไปสู่สายตาชาวโลก นอกจากนี้ "อลัน เบท" ยังหวังลึก ๆ ให้การเดินทางของเขาครั้งนี้ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่ ก้าวเข้ามาเป็นนักกีฬาที่มีประสิทธิภาพต่อไป...

และโดยตลอดการเดินทาง "อลัน เบท" จะได้บอกเล่าเรื่องราวต่างผ่านการสื่อสารทางเฟซบุ๊ก (Facebook) ไฮไฟว์ (hi5) และเว็บไซต์ที่สนับสนุนช่วยเหลือการเดินทางของ "อลัน เบท" ครั้งนี้

 

...อลัน เบท กล่าว
..."ผมอยากใช้ชื่อไทยว่า นายอิสระ เพราะปัจจุบันคนเกิดมาพร้อมประสาทสัมผัสที่เย้ายวน ให้คนหลงในวัตถุจนเกินไป แต่จากประสบการณ์การปั่นจักรยานมาหลายแห่งในเมืองไทย ได้เห็นความงดงามหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ ทำให้รู้สึกชีวิตมีอิสระ"
......"ผมอยากทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และพิเศษเท่าที่จะทำได้ ผมทำสิ่งที่เชื่อมั่นว่า ดีที่สุดเพื่อตอบแทนแผ่นดินไทย ผมรู้สึกประทับใจภูมิปัญญาอันชาญฉลาดของในหลวง พระองค์ท่านทรงเก็บสุนัขข้างถนนมาเลี้ยง ถ้าเป็นคนมีเงิน คงหาสุนัขพันธุ์ดี ราคาแพงมาเลี้ยง ผมได้ศึกษาโครงการพระราชดำริและนำมาปรับใช้กับชีวิต"
..."สิ่งที่ผมทำเพื่อเป็นของขวัญให้คนไทย เพราะผมอยากเป็นคนไทย สัญชาติไทย หากวันที่ผมขี่จักรยานกลับมาเมืองไทย แล้วผมรู้ว่า ผมได้สัญชาติไทย ก็คงดี เพราะโลกจะได้บันทึกว่า ผมเป็นคนไทยที่ขี่จักรยานรอบโลกและทำลายสถิติได้สำเร็จ" 
แต่ประโยคที่เค้าทิ้งท้ายไว้ได้น่ารักคือ “ผมรักเมืองไทย และรักในหลวง”

ที่มา-- oknation.net/blog-- kapook.com