22.2.14

รู้หรือไม่


รู้หรือเปล่าว่าวงการทีวีบ้านเรากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ใช่แล้ว...นั่นคือ ทีวีดิจิตอล(Digital TV)นั่นเอง แล้วมันคืออะไร ไปหาคำตอบกัน

ครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงจากทีวีขาวดำ มาเป็นทีวีสี ในยุคนั้นการใช้ทีวีในแต่ละครัวเรือนยังมีจำนวนไม่มากนัก การเปลี่ยนแปลงจึงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะคนที่ซื้อทีวีเครื่องใหม่ ก็จะเลือกซื้อแต่เครื่องทีวีสี จนกระทั่งทีวีขาวดำค่อยๆหายออกไปจากท้องตลาดในที่สุด

สำหรับระบบทีวีที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เรียกว่าทีวีอนาล็อก (Analog) เป็นการนำเอาสัญญาณภาพมาผสมกับสัญญาณวิทยุ โดยใช้สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินเป็นตัวส่งสัญญาณ ซึ่งตามบ้านก็จะใช้เสาอากาศรับสัญญาณที่เรียกกันว่า "เสาก้างปลา" หรือ "เสาหนวดกุ้ง" นั่นเอง ซึ่งข้อเสียของสัญญาอนาล๊อกคือถูกสัญญาณรบกวนได้ง่าย อาจทำให้รับภาพเสียงไม่ชัด

ทีวีดิจิตอล (Digital TV) คือทีวีที่รองรับการออกอากาศในรูปแบบดิจิตอล ให้สัญญาณภาพและเสียง ที่มีคุณภาพดีกว่าแบบอนาล็อก และใช้คลื่นความถี่ที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยดิจิตอลทีวี จะใช้สัญญาณดิจิตอลที่ถูกบีบอัดและเข้ารหัสที่มีค่าเป็น "0" กับ "1" เท่านั้น ซึ่งในหนึ่งช่วงคลื่นความถี่จะสามารถนำมาส่งได้หลายรายการโทรทัศน์ พร้อมสัญญาณภาพและเสียงที่มีความละเอียดคมชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบัน ในต่างประเทศทั้งในยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ได้เริ่มเปลี่ยนมาใช้สัญญาณโทรทัศน์แบบทีวีดิจิตอลแล้วมากกว่า 38 ประเทศ

ข้อดีของทีวีดิจิตอล นอกจากคุณภาพของสัญญาณภาพและเสียง ที่คมชัดขึ้นเนื่องจากสามารถส่งสัญญาณ FULL HD TV ได้เสถียรและไกลมากขึ้นแล้วนั้น ยังมาพร้อมกับช่องฟรีทีวีที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากเป็น 48 ช่อง แบ่งเป็น 24 ช่องบริการในกลุ่มธุรกิจ, 12 ช่องบริการสาธารณะ และ 12 ช่องกิจการบริการชุมชน ซึ่งเพิ่มการแข่งขันในวงการโทรทัศน์ได้มากเลยทีเดียว ซึ่งต้องมารอลุ้นกันว่ารายละเอียดช่องหลังจากการประมูลนั้นจะเป็นอย่างไร

ฟังแบบนี้แล้วหลายคนอาจมีคำถามว่า แล้วจะต้องซื้อทีวีเครื่องใหม่ที่เป็นทีวีดิจิตอลหรือเปล่า?? คำตอบคือ..นั่นก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาทีวีเครื่องใหม่อยู่พอดี การเลือกซื้อทีวีดิจิตอลก็สามารถตอบโจทย์นี้ได้ แต่สำหรับผู้ที่มีทีวีเดิมอยู่แล้ว บางคนบอกว่าเพิ่งจะถอยมาใหม่ไม่กี่เดือนนี้เอง หรือยังไม่พร้อมที่จะทุ่มทุนเปลี่ยนทีวีทั้งเครื่องแบบนั้น ก็ยังมีอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่เรียกว่า กล่องรับสัญญาณ "Set Top Box" ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้จะทำหน้าที่ถอดรหัสสัญญาณดิจิตอล แล้วส่งภาพและเสียงให้อยู่ในรูปแบบที่ทีวีอนาล็อกเครื่องเดิมรับได้ โดยผ่านสาย HDMI, AV, หรือ RG6 เพียงเท่านี้ก็สามารถรับชมทีวีในระบบดิจิตอลได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็นกันได้แล้ว

***ย้อนมาที่ตลาดหุ้น แน่นอน กลุ่มที่ได้ประโยชน์การการเปลี่ยนแปลงครั้งนี่คือบริษัทในกลุ่มมีเดีย(MEDIA) เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาสะพัด 2 แสนล้านบาทภายใน 5 ปี สุดท้ายประเทศไทยก็ได้ “ฟรีทีวี” รายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 24 ช่อง ซึ่งผู้ชนะการประมูลแบ่งตามนี้

ช่องข่าว
1.บริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด (เนชั่น)
2.บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด
3.บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ทีวีพูล)
4.บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด 
5.บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด 
6.บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์จำกัด (เดลินิวส์)
7.บริษัท 3เอ. มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (ทำข่าวให้ช่อง 5)

ช่อง HD
1.บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย (ช่อง 3) จำกัด
2.บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (กลุ่มปราสาททองโอสถ)
3.บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ช่อง 7)
4.บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด (ไทยรัฐ)บาท
5.บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) 
6.บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด
7.บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด

ช่อง SD
1.บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด (Workpoint) 
2.บริษัท ทรู ดีทีที จำกัด (True) 
3.บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด (GMM) 
4.บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด 
5.บริษัท อาร์.เอส.เทเลวิชั่น จำกัด 
6.บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด (Mono) 
7.บริษัท แบงคอก บิสสิเนส บรอดแคสติ้ง (Nation) จำกัด 

ช่องเด็ก
1.บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 3)
2.บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) (ช่อง 9)
3.บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ทีวีพูล)