ซี่โครงหมูอบ

                    วันนี้ผ่านไปตลาดเห็นซี่โครงหมูอบแล้วอยากกินมากกกกกเลยเข้ามาหาสูตรวิธีทำดีกว่า ใหนๆก็ใหนเลยหาบันทึกมันใน blog นี่แหละ ซึงมันไม่เกี่ยวอะไรกันเล้ยยยกะไอ้เหล้ากะกาแฟเนี้ยยย เอาหล่ะเผื่อใครอยากได้ อร่อยอยู่นะสูตรนี้ เราลองทำแล้ว

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. ซี่โครงหมูอ่อนประมาณ  5  กก.

    ***ซี่่โครงหมูอ่อนเลือกจากหมูที่มีน้ำหนักตัว 200 กก. ขึ้นไป หมู 1 ตัวจะได้ซี่โครงอ่อนประมาณ 1กก. เท่านั้น เมื่อได้ซี่โครงหมูอ่อนก็ทำความสะอาดก่อนลงหม้อตุ๋น

2. น้ำมันหอย   100   กรัม

3. ซีอิ้วขาว       75    กรัม

4. ซอสถั่วเหลือง 115  กรัม

5. ซีอิ้วดำ 40 กรัม

6. พริกไทยเม็ดทุบพอแหลก  50  กรัม

7. น้ำตาลทราย  300  กรัม

8. รากผักชี  100 กรัม

9. น้ำสะอาด  6  กก.

10. กระเทียมไทยบุบ 100  กรัม

    ***กระเทียมต้องล้างน้ำทำความสะอาดให้ดี บุบทั้งเปลือกก่อนนำลงหม้อตุ๋น นอกจากมันจะช่วยดับคาวแล้ว ยังช่วยเพิ่มความหอมให้กับหมูที่เราจะอบ

11. แป้งข้าวโพด 15 กรัม

12. น้ำเปล่าสะอาดสำหรับละลายแป้ง 30 กรัม

วิธีทำ

1. นำผ้าขาวบางมาปูบนจาน จากนั้นนำรากผักชี พริกไทยบุบ และกระเทียมไทยใส่ลงไป แล้วมัดใส่ห่อผ้าขาวบาง จากนั้นเอาใส่หม้อที่มีน้ำสะอาดสำหรับตุ๋นซี่โครงหมู

2.  ใส่ซี่โครงหมูอ่อนที่เตรียมไว้ลงไปทีละชิ้นตามด้วนน้ำตาลทราย น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว ซอสถั่วเหลือง และ ซีอิ้วดำ จากนั้นก็นำมาตั้งบนเตา ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน ตุ๋นจนซี่โครงหมูอ่อนเปี่อยใช้เวลาในการตุ๋นประมาณ 6 ชม.

3.  เมื่อซี๋โครงหมูอ่อนตุ๋นจนได้ที่แล้ว ให้ตักเครื่องเทศทีอยู่ในผ้าขาวออก

4.  เมื่อจะทานก็ให้ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง นำน้ำซุปที่ตุ๋นซี่โครงมาเทลงในกระทะประมาณสัก 1 ถ้วยตวง รอให้มันเดือดสักครู่ ก็เตรียมน้ำข้าวโพด คือแป้ง 15 กรัม น้ำ 30 กรัม คนให้เข้ากัน แล้วเทลงในกระทะน้ำซุป คนจนเหนี่ยวคล้ายน้ำราดหน้า

5.  เมื่อทำน้ำซุปเสร็จ ก็ตักซี่โครงหมูใส่จาน ราดด้วยน้ำซุป กินกะข้าวได้เลยยยยยย 

*****หรือจะแกล้มด้วยคะน้าลวก หรือถ้าใครชอบเผ็ดก้อทำน้ำซอสพริกเปรี้ยวราด เหมือนข้าวขาหมูก้ออร่อยไม่หยอกนิ

cr. สูตรจากครัวคุณต๋อย

วิธีไล่มดอย่างง่าย

มิโมซ่า (Mimosa)

วันนี้เอาวิธีทำค๊อกเทลที่มืชื่อว่า มิโมซ่า (Mimosa)มาฝากกันค่ะ แต่ไม่ใช่มิโมซ่าที่อยู่ที่พัทยานะตะเอง เอาหล่ะเพื่อนลองทำดู สูตรนี้ง่ายมากกกกกกค่ะ

ส่วนผสม

• น้ำส้มคั้นเย็น 1/4 แก้ว
• แชมเปญแช่เย็น (Chilled Cham-pagne) 1/2 แก้ว

วิธีผสม

• 1. รินน้ำส้มคั้นเย็นใส่แก้วแชมเปญ
• 2. เติมแชมเปญเย็น

คาสิโนในเมืองไทย

รู้หรือไม่ว่าเมืองไทยเคยมีบ่อนคาสิโน

ในอดีตเมืองไทยเคยมีบ่อนถูกกฎหมายเปิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องด้วยปัญหาประชาชนติดการพนัน ได้มีการยกเลิกบ่อนการพนัน จาก 403 ตำบล เหลือ 9 ตำบล และในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการประกาศปิดบ่อนทั่วประเทศในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2460

และอีกครั้งที่รัฐบาลเปิดให้เล่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2488 ในรัฐบาลของ
นายควง อภัยวงศ์ ซึ่งมีการผลิตเหรียญนี้ขึ้นเพื่อใช้แทนชิพ มีจำนวนทั้งหมด 4ราคา คือ 1,10,20 และ 100 ที่ขอบเหรียญมีการตอกเลข ระบุหมายเลขของเหรียญนั้นๆไว้ เหรียญดังกล่าวนี้ เป็นเนื้อนิเกิล ผลิตจากประเทศอังกฤษ ว่ากันว่า มีการเปิดบ่อนในยุคได้เพียงเเค่ 4เดือน ประชาชนเล่นการพนันกันมาก บ้างก็หมดเนื้อหมดตัว ถึงกับฆ่าตัวตายก็มี ต่อมาทางการจึงได้สั่งปิดบ่อนคาสิโนดังกล่าว ในวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2488
หลังจากปิดตัวลงทางรัฐบาลได้ทำลายอุปกรณ์ต่างๆรวมถึงชิพเหล่านี้ด้วยปัจจุบันเหลือไว้เพียงแต่ชิพเหล่านี้ให้เห็นเพียงต่างหน้าเท่านั้น อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าบ้านเราในสมัยก่อนนั้นก็เคยมีบ่อนคาสิโนอย่างถูกต้องตามกฏหมาย

และในปี 2551 สมัคร สุนทรเวชนายกรัฐมนตรีประเทศไทยได้มีการกล่าวว่า "ถ้าได้เป็นนายกครบ 4 ปีจะมีการเปิดคาสิโนในประเทศไทยใน 5 จังหวัดท่องเที่ยว" [3] ซึ่งทางดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้มีการเขียนค้านในหนังสือพิมพ์ว่าการเปิดกาสิโนในไทยจะก่อให้เกิดปัญหามากขึ้น ซึ่งรวมถึงปัญหาการซักฟอกเงินที่เป็นปัญหาในหลายประเทศ


และในอีกบางมุมมองกลับบอกว่า การเปิดบ่อนกาสิโนในประเทศไทยจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะไม่ว่าจะยังไงก็ตามก็จะมีคนเล่นการพนันอยู่ดี และเงินเหล่านี้ก็จะไปอยู่กับกลุ่มคนที่มีอำนาจหรือไม่ก็นายทุนผู้มีอิทธิพล อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้านก็เปิดกาสิโนหมดแล้ว [4]เงินจำนวนไม่น้อยที่ไหลออกนอกประเทศ ประชาชนในประเทศไทยไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ เป็นมุมมองเดียวกันกับที่รัฐบาลที่นำเอา หวยใต้ดิน มาสร้างเป็น หวยบนดิน ทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากมายมหาศาลมาพัฒนาการศึกษา เก็บรายได้เข้ารัฐแทนที่จะไปอยู่ในมือเจ้ามือผู้มีอิทธิพล ถึงอย่างไรก็ตามก็เป็นเพียงมุมมองบางส่วนเท่านั้น หากจะมีการเปิด คาสิโนในประเทศไทย รัฐบาลควรให้ข้อมูลและให้ความรู้กับประชาชนภายในประเทศก่อน ชี้ให้เห็นถึงผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้น อธิบายระบบการเล่นคาสิโนผลกระทบต่างๆที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันต่างๆให้ชัดเจน หลังจากนั้นจึงทำประชามติ ให้ประชาชนคนไทยเป็นผู้ตัดสินว่าควรให้มีหรือไม่ ที่ใด


****เพราะฉะนั้นผู้หลักผู้ใหญ่ก็คิดให้ดีว่าควรจะมีหรือไม่ก็พิจารณาดูกันเอาว่าสมควรจะมีหรือไม่ มาตราการมีหลักการแก้ไข ป้องกันอย่างไร ลดความคิดส่วนตัวกันนิดนึง

cr. วิกิพีเดีย

ท่านอนที่ดีที่สุด

ทำไมต้องโจรห้าร้อย!

โคโคน่า!

4 อุปสรรคที่ทำให้เราไม่ไปถึงเป้าหมาย

มาลดหน้าท้องด้วยมะนาวกัน

น้ำมันมะกอกแก้นอนกรน

ท่าบริหารสำหรับแก้ปวดคอ

มาดืมน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นหลังตื่นนอนตอนเช้ากันเถอะ

สิงค์โปรสลิง

วันนี้มาเอาเครื่องดื่ม สิงค์โปรสลิง มาฝากค่ะ

ส่วนผสมสำหรับทำ สิงค์โปรสลิง

น้ำแข็งก้อน                               2-3 ก้อน

Gin                                       1/4 ออนซ์

Cherry brandy                      2 ช้อนชา

Cointreau liqueur                  1 ช้อนชา

Benedictine liqueur               1 ช้อนชา

น้ำสัปประรด                               1 ออนซ์

น้ำมะนาว                                   1/4 ออนซ์

Angostura bitters                  4 ดลอบ

ใบสาระแหน่

ขั้นตอนการทำ สิงค์โปร์สลิง

1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในแก้วเช็ก เขย่าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน

2. เสริฟใส่แก้วตกแต่งแก้วด้วยใบสาระแหน่

มาทำ Paradise fizzกันเถอะ

พาราไดซ์ ฟิซซ์

ส่วนผสม

จิน (Gin)                                                        1 1/2 ออนซ์

น้ำมะนาว                                                          1 ออนซ์

น้ำเชื่อม                                                           3/4 ออนซ์

น้ำเชื่อมทับทิม                                                    1/4 ออนซ์

ไข่ไก่ (เฉพาะไข่ขาว)                                            2 หยด

โซดา                                                              1/2 ออนซ์

น้ำแข็งหลอดเล็ก

เชคเกอร์

แก้วฟิซซ์ขนาด  12 – 14 ออนซ์

ส้มฝานและเชอร์รี่สำหรับตกแต่ง

วิธีผสม

1. ใส่น้ำแข็งและน้ำแข็งทุบ 3/4 ของแก้วลงใน

เชคเกอร์

2. ใส่ส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นโซดา ลงในเชคเกอร์ เขย่าแรงๆ เร็วๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน รินพร้อมน้ำแข็งใส่แก้ว

3. ลอยหน้าด้วยโซดา

4.ตกแต่งด้วยส้มฝานและเชอร์รี่ เสิร์ฟพร้อมหลอดดูด

ดื่มกาแฟอย่างไรให้เสียสุขภาพน้อยที่่สุด