23.2.11

เรื่องดีๆที่อยากให้อ่าน......

 

        ได้รับ fw; มา1ฉบับ ก็เกือบจะลบทิ้งเหมือนเดิมๆ แต่มาสะดุดตรงหัวเรื่องที่เห็นเข้าพอดิบพอดีคือ "เมื่อแฟนผมให้ผมไปออกเดทกับหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เธอ..."  พอดีกับที่มีลูกค้าเข้าร้านพอดี แต่ในหัวก็คิดตลอดว่าใจความของเรื่องนี้มันคืออะไร ยิ่งนานก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้น  จนกระทั้งลูกค้ากลับก็ผ่านไป4ชั่วโมงได้ ถึงได้มีเวลาเข้ามาอ่าน  และก็ประทับใจในเรื่องๆนี้ ก็เลยอยากเอามาแบ่งปันเผื่อมีใครหลงเข้ามาอ่านเจอ และจะเกิดความรู้สึกซึ้งๆและรักผู้หญิงคนคนนึงที่รักมากอยู่แล้วและเราจะรักเค้ามากขึ้นกว่าเก่าเหมือนๆกับเราบ้าง......


หลังจากที่แต่งงานมาได้ 21 ปี ผมก็ค้นพบวิธีใหม่ในการทำให้ความรักสดใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ...เพราะ....วันหนึ่งภรรยาผมบอกว่า   ผมต้องออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่ง    มันเป็นไอเดียของเธอล้วน ๆ จริง ๆ นะ

"ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ" ภรรยาผมพูด

"แต่ผมก็รักคุณนี่"  ผมเถียง

"ฉันรู้ค่ะ แต่คุณก็รักเธอคนนี้ด้วยเหมือนกัน"  
ผู้หญิงคนนั้นที่ภรรยาอยากให้ผมไปหาก็คือ 

"แม่" ของผมเอง ซึ่งเธอเป็นหม้ายและใช้ชีวิตเพียงลำพังกับสัตว์เลี้ยงมา 19 ปีแล้ว เนื่องจากงานที่รัดตัว ทั้งเจ้านายและลูกค้าที่ผมจะต้องรับผิดชอบ และยังมีภรรยาและลูก ๆ ที่ต้องดูแล ทำให้ผมไปเยี่ยมแม่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น ผมตอบตกลงกับภรรยา และขอบคุณที่เธอให้โอกาสเช่นนั้น วันที่ผมโทรไปหาแม่ เพื่อชวนท่านออกไปทานข้าวเย็นและดูหนัง

แม่ถามผมว่า....
"มีอะไรหรือ ? ลูกสบายดีรึเปล่า? " 

แม่คิดว่าการที่ผมโทรมาหาอย่างกระทันหัน หมายความว่ามีเรื่องที่ไม่ค่อยดีเกิดขึ้น
ผมตอบแม่ว่า
"ไม่มีอะไรคับ ก็อยากคุยกับแม่ และคงจะดีมาก ถ้าเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ตามลำพังสองคนแม่ลูกบ้าง ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ดูหนังด้วยกันสักเรื่อง"

แม่นิ่งคิดไปครู่หนึ่งแล้วตอบว่า  
"ได้สิจ๊ะ แม่ยินดีมากเลยจ้ะ ' + ' แล้วลูกมีเวลาว่างแล้วเหรอจ๊ะ หยุดงานได้เหรอ"......

เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ผมขับรถไปรับแม่ที่บ้าน ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อผมไปถึงบ้านแม่ ผมก็สังเกตได้ว่า แม่เองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน  แม่สวมเสื้อโค้ทนั่งรอผมอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว แม่ม้วนผมแล้วสวมชุดที่แม่ใส่ในวันฉลองครบรอบการแต่งงานครั้งสุดท้าย พลางยิ้มรับผมด้วยใบหน้าที่แจ่มใสราวกับทูตสวรรค์   แม่บอกเพื่อน ๆ ว่า 
 "จะออกไปเที่ยวกับลูกชาย"

แม่พูดขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ เพื่อน ๆ ของแม่ต่างพากันประทับใจยกใหญ่ เราไปภัตตาคารที่ถึงแม้จะไม่หรูหรา แต่ก็ดีเยี่ยม บรรยากาศก็อบอุ่นสบายๆ มากๆ ผมวางแผนว่าต้องเป็นร้านในสไตล์ที่แม่ต้องชอบ แม่ควงแขนผมเดินราวกับว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง หลังจาที่เรานั่งกันเรียบร้อยแล้ว ผมต้องฝ่ายอ่านเมนูอาหารให้แม่เพราะแม่บอกว่า
 "ตอนนี้สายตาของแม่อ่านได้เพียงตัวหนังสือตัวใหญ่ ๆ เท่านั้น"

เมื่อผมอ่านเมนูอาหารไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง จึงหยุดเว้นจังหวะ เพื่อให้แม่ได้เลือกรายการอาหาร ผมเงยหน้าขึ้น มองเห็นแม่กำลังจ้องมองดูผมอยู่ด้วยรอยยิ้มระลึกถึงความหลังและแม่พูดเปรยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า
"ตอนที่ลูกยังเด็ก แม่ต้องเป็นคนอ่าน เมนูให้ลูกฟังหลายรอบ"

ผมบอกแม่ว่า
"งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะผลัดเวรให้แม่นั่งฟังสบาย ๆ บ้างแล้วสิ"

ในระหว่างอาหารเราคุยกันอย่างถูกคอ ไม่ใช่เรื่องราวพิเศษอะไร เพียงแต่สลับกันถามว่าชีวิตของเราเป็นอย่างไรกันบ้าง  เราคุยกันสนุกมากจนไปดูหนังไม่ทัน

........

เมื่อผมไปส่งแม่ที่บ้าน 
แม่พูดว่า
"แล้วแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกอีกนะ  แต่คราวนี้ลูกต้องยอมให้แม่เป็นเจ้าภาพนะจ๊ะ"

ผมตอบตกลง
"แน่นอนครับ" 

ภรรยาถาม เมื่อผมกลับถึงบ้าน
"ดินเน่อร์เป็นยังไงบ้าง ?"

ผมตอบ 
"วิเศษมาก ๆ ดีเยี่ยมกว่าที่ผมคิดไว้มากเลย"

อีกไม่กี่วันต่อมา แม่ผมเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน มันเกิดขึ้นกระทันหันมากจนผมช่วยอะไรไม่ทันเลย..... และอีกหลายวันต่อมา...... ผมได้รับจดหมายพร้อมใบเสร็จจากภัตตาคารที่ผมกับแม่เคยไป
มีโน๊ตเล็กๆแนบมาด้วยว่า...
"แม่จ่ายค่าอาหารชุดนี้เรียบร้อยแล้ว แม่รู้อยู่แล้วว่าแม่คงไปอีกครั้งไม่ได้ - แต่... แม่ก็จ่ายสำหรับสองคน คือ สำหรับลูกกับภรรยา - ลูกคงเดาไม่ถูกหรอกว่าวันนั้นมีความหมายต่อแม่มากแค่ไหน , รักลูกมากจ๊ะ"

ณ..วินาทีนั้น ผมได้เข้าใจถึงความสำคัญของการกล่าวคำว่ "รัก" ต่อคนที่เรารัก ในช่วงเวลาที่เค้าต้องการมันไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าครอบครัวของคุณ  จงให้เวลากับพวกเค้าในเวลาที่พวกเค้าต้องการคุณ เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจผลัดวันประกันพรุ่งได้ .....

-มีบางคนบอกว่า หลังจากที่คลอดลูกแล้วต้องใช้เวลาพักฟื้นราว 6 สัปดาห์ แม่จึงจะคืนสภาพเดิม
คนนั้นไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณได้เป็นแม่คนแล้ว ไม่มีคำว่าคนเดิมอีกต่อไป

-บางคนบอกว่า คนเราเรียนรู้การเป็นแม่ได้เองตามสัญชาติญาณ
คนนั้นไม่เคยพาลูกสามขวบไปซูเปอร์มาร์เก็ต

- บางคนนั้นบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นน่าเบื่อ คนนั้นไม่เคยนั่งรถที่ลูกวัยรุ่นขับ หลังจากที่ได้ใบขับขี่มาหมาด ๆ
- บางคนบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี ลูกออกมาก็จะดีเอง คนนั้นนึกว่าเด็กคลอดออกมาพร้อมกับคู่มือการใช้และใบรับประกัน
-บางคนบอกว่า แม่ที่ดีไม่ควรขึ้นเสียงกับลูก คนนั้นไม่เคยเปิดประตูหลังบ้านออกมา ทันได้เห็นลูกหวดลูกบอลเข้าใส่หน้าต่างครัวของเพื่อนบ้านพอดิบพอดี

-บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นไม่ต้องมีการศึกษาก็ได้
คนนั้นไม่เคยช่วยลูกที่กำลังเรียน ป. 4 ทำการบ้านเลข
- บางคนบอกว่า แม่รักลูกคนที่ห้าไม่เท่าลูกคนแรก คนนั้นไม่เคยมีลูกห้าคน

-บางคนบอกว่า ช่วงที่ยากที่สุดของการเป็นแม่ คือตอนคลอดและตอนเลี้ยง คนนั้นไม่เคยยืนดูลูกขึ้นรถเมลไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก ไม่เคยส่งลูกเข้าห้องหอในคืนแต่งงาน

-บางคนบอกว่า งานของแม่นั้นหมู ๆ ปิดตาสองข้าง หรือมัดมือไว้ข้างหนึ่งก็ยังไหว คนนั้นไม่เคยสอนการออกเดินขายขนมให้กับเหล่ายุวนารี ที่กระจุ๊กกระจิ๊กคิกคักกันอยู่ตลอดเวลา

-บางคนบอกว่า แม่เลิกกังวลได้แล้ว หลังจากที่ลูกแต่งงานออกเรือนไป คนนั้นไม่รู้ว่าการแต่งงานคือการนำลูกชายหรือลูกสาวคนใหม่เข้ามาอยู่ในสายใยใจของแม่

-บางคนบอกว่างานของแม่ สิ้นสุดลงเมื่อลูกคนสุดท้ายออกจากบ้านไป คนนั้นไม่เคยมีหลานยาย หรือหลานย่า

-บางคนบอกว่า แม่รู้ดีอยู่แล้วว่าคุณรักท่าน เพราะงั้น ไม่ต้องบอกท่านก็ได้.....

คนนั้นไม่เคยเป็นแม่คน