31.3.11

เผย 10 ทฤษฎี ความเป็นไปได้ สู่ยุค โลกาวินาศ

 

    สื่อนอกจัดอันดับ10 ทฤษฎี ความเป็นไปได้ที่ทำให้เกิด โลกาวินาศ  เว็บไซต์ เทเลกราฟ ประเทศอังกฤษ รายงาน 10ทฤษฎี ความเป็นไปได้ที่ทำให้เกิดโลกาวินาศ โดยยกหลักฐาน พร้อมให้คะแนนความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ดังนี้

1.การบุกรุกจากมนุษย์ต่างดาวและการยึดครองจากสิ่งมีชีวิตนอกโลก
  
         เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว เป็นเรื่องที่ยังคงถกเถียงกันมาเป็นเวลานาน ยังไมีใครสามารถยืนยันได้ว่า นนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้อ้างว่า พบเห็นมนุษต่างดาว ยานอวกาศ อย่างต่อเนื่อง การบุกรุกจากมนุษย์ต่างดาวเคยเป็นเรื่องราวในนวนิยาย ไม่ว่าจะเป็นจากดาวอังคาร และดาวดวงอื่นๆ แต่ทว่า มนุษย์ก็ยังคงหวาดกลัวว่า เหตุดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจริงขึ้นมาก็ได้ อีกทั้งหลักฐานต่างๆที่พบ ยิ่งสนับสนุนทฤษฎีนี้ 
      หลักฐาน ภาพถ่าย วีดิโอ การเคลื่อนไหวของรัฐบาลจากประเทศต่างๆที่มีการเตรียมพร้อมรับมือ และตรวจสอบยานอวกาศนานกว่า 50 ปี

2.ดาวปริศนา Nibiru (Planet X)

    ยังคงเป็นที่ถกเถียงและหาทางพิสูจน์กันอยู่ว่า ดาวลึกลับในตำนาน มีอยู่จริงหรือไม่? และถ้ามี ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน?
ดาว ดังกล่าวถูกเชื่อมโยงถึงเรื่องปรากฏการณ์วันสิ้นโลก อยู่ในกาแลกซี่เดียวกับโลกของเรา มีชื่อตั้งทางวิทยาศาตร์ว่า นิบิรุ (Nibiru) เส้นทางการเดินทางของวงโคจรดาว นิบิรุ มีความเป็นไปได้ที่มันจะโคจรมาทับเส้นเดียวกับวงโคจรของโลก นั่นแสดงว่า มันมีสิทธิชนโลกได้ คาดว่าในปี 2012 เราสามารจะเห็นดาวนิบิรุ ใหญ่ขนาดดวงอาทิตย์ เพราะมันโคจรใกล้กับโลกของเราเต็มที
       หลักฐาน องค์การนาซ่า (NASA)ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในปี ค.ศ.2005 แต่ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวมีการเปิดเผยน้อยมาก และยังไม่แน่นพอ

3.ภัยพิบัติจากดวงอาทิตย์

       ตามปฏิทินของชาวมายัน โดยอ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าดวงอาทิตย์จะนำโลกไปสู่หายนะในปี 2012 การขับแก๊ส และการปะทุของดวงไฟขนาดใหญ่ สร้างความเสียหายแก่มวลมนุษย์ และระบบนิเวศในโลกจนสิ้น หลักฐานปฏิทินของชาวมายันอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับทฤษฎีนี้ เนื่องจากมีการสังเกตวงโคจรของดวงอาทิตย์กว่า 11 ปี 
         หลักฐานค่อนข้างอ่อน แต่แสงจากดวงอาทิตย์ ก็สามารถสร้างปัญหาให้กับมนุษย์ได้ เช่น ระบบดาวเทียม การเดินทางของนักบินอวกาศ หากในอนาคต ดวงอาทิตย์หมดเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน นักวิทยาศาตร์ต่างเชื่อว่า ดวงอาทิตย์จะขยายตัวเป็นเชื้อเพลิงสีแดงขนาดใหญ่ เขมือบโลกจนวินาศ

4.การเปลี่ยนขั้วของสนามแม่เหล็ก

    สนามแม่เหล็กหลักที่ถูกสร้างขึ้นโดยกระแสการไหลอันรุนแรงของเหล็กที่หลอม เหลวของ แกนรอบนอกของโลกนั้น บางครั้งจะกลับทิศทางของมัน ด้วยเหตุนี้เข็มของเข็มทิศจะชี้ไปทางใต้แทนที่จะชี้ไปทางเหนือ การกลับหัวของขั้วเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นนับร้อยครั้งที่ช่วงระยะเวลาไม่แน่นอนในประวัติศาสตร์ของโลก ครั้งล่าสุดก็ประมาณ 780,000 ปีก่อน แต่นักวิทยาศาสตร์นั้นก็ยังพยายามที่จะศึกษาว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมมันถึงได้เกิดขึ้น
เหตุนี้เองเป็นหนึ่งในทฤษฎีที่ถูกเชื่อว่า จะเป็นสาเหตุให้การหมุนของโลกปั่นป่วน เกิดความหายนะตามมา
     หลักฐานนักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Princeton และ Paul Sabatier ประเทศฝรั่งเศส ชี้ให้เห็นว่า โลกของเรามีการหมุนตัวกลับทิศด้วยตัวมันเองมานานกว่า 800 ล้านปี นอกจากนี้ยังมุ่งความสนใจไปยังหินที่บรรจุหลักฐานของจำนวนครั้งที่สนามแม่ เหล็กหลัก เหนือใต้นั้นได้อ่อนกำลังลง ซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าขั้วแม่เหล็กนั้นอาจจะกลับทิศทาง

5.การระเบิดภูเขาไฟครั้งร้ายแรงที่สุด

   การปะทุของวันสิ้นโลก เป็นการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า แมกม่าขนาดใหญ่จะขยายตัวภายในเปลือกโลก จนกระทั่งปะทุออกมา ผลก็คือ พื้นที่โลกมหาศาลถูกทำลายล้าง
     หลักฐานภาพถ่ายดาวเทียมของผิวโลกพบว่า มีการเปลี่ยนแปลง และการเคลื่อนไหวของหินหลอมละลาย 10 ไมล์ ใต้ผิวโลก

6.สงครามโลกครั้งที่สาม

     การขัดประโยชน์กันเอง นำไปสู่ภัยพิบัติที่เกิดจากน้ำมือของเหล่ามวลมนุษย์ ทุกชีวิตจะล้มตาย ส่วนที่เหลือ จะได้รับความลำบากทุกข์ยาก ขาดแคลนทั้งเสบียง อาหาร น้ำดื่ม มนุษย์จะฆ่ากันเอง พื้นที่หลายส่วนจะถูกลบทิ้งออกจากแผนที่โลก บางแห่งอาจจะหายไปทั้งประชากรและแผ่นดิน สิ่งที่ไม่น่าเกิดก็จะเกิดขึ้น รวมถึงภัยพิบัติต่างๆตามธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ที่ผ่าน มามีการแข่งขันด้านระเบิดนิวเคลียร์จากทั้งฝ่ายตะวันตก และตะวันออก มีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องตลอดปี 1970 และ 1980
      หลักฐาน สงคราม ระหว่างประเทศเพิ่มระดับความขัดแย้งเป็นระดับโลก อาทิ สงครามเกาหลีเหนือ-ใต้ การเตรียมความพร้อมระเบิดนิวเคลียร์ในจีน มหาอำนาจยักษ์ใหญ่


7.โลกาวินาศจากเหตุก่อการร้าย

       ตั้งแต่การโจมตีก่อการร้าย ในกรุงนิวยอร์ค และวอชิงตัน สหรัฐ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นกว่า 3 พันคน กลุ่มก่อการร้ายอัลเคดาห์ และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ มีบทบาทสร้างความหวาดกลัวแก่มวลมนุษยชาติ ทั้งการสะสมอาวุธสงคราม การทำลายล้างสิ่งก่อสร้าง การปล่อยสารเคมี และการโจมตีทางชีวภาพ ทั้งอังกฤษ และสหรัฐถูกตั้งเป้าเป็นแหล่งโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย
      หลักฐานบิน ลาดิน ผู้ก่อตั้งขบวนการอิสลามแนวหน้านานาชาติเพื่อสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านชาว ยิว และพวกคริสเตียน (Interna-tional Isalamic Front for Jihad Against the Jews and Crusaders) ได้ให้สัมภาษณ์โจมตีอย่างรุนแรงถึงรัฐบาลอเมริกัน ว่าเป็นพวกโหดเหี้ยม ทำร้ายรวมถึงเข้าครอบครองพื้นที่มุสลิม โดยสนับสนุนอิสราเอล และประกาศจะให้บทเรียนที่สาสม ในวัน “ดำมืด” แก่สหรัฐอเมริกา รวมถึงพลเมืองที่ต้องรับผิดด้วย ทั้งนี้ เชื่อกันว่า กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ มีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์จ้องสังหารอยู่

8.วิกฤติน้ำมัน

     ไม่ว่าจะใช้ความพยายามเท่าใด ปริมาณน้ำมันที่ได้จากการสำรวจขุดเจาะ ก็จะลดลง แนวคิดนี้มาจากการสังเกตปริมาณน้ำมันของแต่ละบ่อที่ขุดเจาะ และเมื่อรวมถึงผลผลิตน้ำมันโดยรวม เมื่อถึงจุดที่สามารถผลิตน้ำมันที่ได้จากแหล่งปิโตรเลียมสูงสุดแล้ว หลังจากนั้น ปริมาณน้ำมันที่สำรวจขุดเจาะได้จากธรรมชาติจะลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะในขณะเดียวกัน ความต้องการใช้พลังงานก็จะมีแนวโน้มที่สูงขึ้น เข้าลักษณะอุปสงค์สูงกว่าอุปทาน ไปถึงจุด Peak Oil นั่นคือ“จุดที่ไม่มีน้ำมันเหลืออยู่” กระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมทั่วโลก
      หลักฐานจุดวิกฤติน้ำมันเริ่มใกล้เข้ามาทุกที แต่ยังมีคำถามอยู่ว่า
1.มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
2.โลกจะพัฒนาให้มีเชื้อเพลิงใช้เป็นทางเลือกอื่นอีกหรือไม่

9.ปรากฏการณ์ Colony Collapse Disorder (CCD) การล่มสลายของผึ้ง
       
     ผู้เลี้ยงผึ้งในสหรัฐรวม 22 มลรัฐ พบว่าผึ้งที่เลี้ยงอยู่กว่าร้อยละ 50 หายสาบสูญไปจากรัง ปล่อยให้นางพญาและตัวอ่อนอดตายคารัง ปรากฏการณ์ CCD นี้ยังเกิดลุกลามไปยุโรป คือ โปแลนด์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี สาเหตุที่เดากันและพยายามหาคำตอบอยู่ในเวลานี้สันนิษฐานว่า
1.เป็นเพราะผลกระทบจากมลพิษในสิ่งแวดล้อม
2.การเกิดโรคระบาด
3.การใช้ยาฆ่าแมลง
4.ผลจากการที่พืชตัดต่อพันธุกรรมเข้าไปปนเปื้อนกับธรรมชาติ
5.คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูง
ดัง นั้น กุญแจสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์จะขาดหายไป อันเนื่องจาก วัฏจักรสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศไม่สมบูรณ์ อาหารที่ผลิตโดยผึ้งขาดแคลน อาทิ ถั่วเหลือง องุ่น แอปเปิล ทานตะวัน และอื่นๆ
      หลักฐาน การสูญหายไปจากรังของผึ้ง ลุกลามไปยังพื้นที่ยุโรป

10 การล่มสลายของสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต

       การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อน นำไปสู่หายนะโลกาวิบัติในไม่ช้า เห็นได้จากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ผ่านมา เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น มนุษย์ ซึ่งต้องพึ่งพาสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบโดยตรง
    หลักฐานอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกๆปี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


ที่มา---oknation,sanook.com,ความรู้ทั่วไป


29.3.11

รู้ไว้ก่อน จะเสียตัว

 


       วันนี้้เอาบทความบทความหนึงมาแบ่งปันเพื่อนๆค่ะ เผือจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย เป็นหมายเหตุ....รู้ไว้ก่อน จะเสียตัว เป็นบทความที่ส่งต่อมาให้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ทั้งชายและหญิง ทุกวัย พ่อ แม่ ครู อาจารย์ ก็นำไปให้สติลูกหลานได้

๕ ขั้นตอนก่อนเสียตัว

๑. อย่าเปิดโอกาส

จากการสัมภาษณ์วัยรุ่นจำนวนมาก พบว่าการมีเซ็กส์ครั้งแรกไม่ได้เกิดขึ้นโดยความตั้งใจหรือมีการเตรียมความพร้อม ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะบรรยากาศพาไป อยู่กันสองต่อสองหรือสถานที่ลับหูลับตา โดยหารู้ไม่ว่าสถานที่ดังกล่าวคือออฟฟิตของเหล่าบรรดาสมาชิกหน่วยล่าพรหมจรรย์

ถ้าเขาชักชวนไปในที่ดังกล่าว เราก็ขอเปลี่ยนเป็นสถานที่ที่ผู้คนชุกชุม เวลาค่ำมืดก็ต้องหลีกเลี่ยง…แผนการที่เขาได้วางไว้ ไม่สามารถลงมือได้…เพราะโอกาสไม
่เอื้ออำนวย
อย่าคิดว่าผู้ชายดีๆ จะไม่เคยคิดชั่ว…สมัยผมเป็นวัยรุ่น คิดชั่วเป็นประจำ แต่ดีอยู่อย่างคือไม่เคยลงมือ… เพราะไม่มีโอกาส… เดี๋ยวนี้ผมมีโอกาสมากมาย แต่ไม่ยอมลงมือ เพราะเลิกคิดชั่วแล้ว…

จากวัยรุ่นอายุใกล้ ๒๐ มาเติบโตจนถึงวัยเกือบ ๔๐…จากคนที่คิดชั่วเป็นประจำ มาเป็นเลิกคิดชั่วแล้ว… การเปลี่ยนแปลงตรงนี้เราเรียกว่า "วุฒิภาวะ" (Maturity) – ส่วนหนึ่งของวุฒิภาวะคือความสามารถในการควบคุมอารมณ์ความต้องการของตนหรือยับยั้งชั่งใจที่จะกระทำ ตามความแรงขับภายในจิตใจของตนเอง หรือพูดให้จำง่ายๆว่า "สมองส่วนคิดควบคุมสมองส่วนอยาก"

เพราะฉะนั้น ในท่ามกลางหมู่เพื่อนวัยหนุ่มฉกรรจ์ซึ่งยังอ่อนวุฒิภาวะ สมองส่วนอยากทำงานมากกว่าสมองส่วนคิด… การปิดโอกาสมิให้ผู้ชายประพฤติชั่ว มีค่าเท่ากับการเปิดโอกาสให้เขารักษาความดี…

๒. อย่าเปิดเครื่องรางของขลัง

ต้องรู้ว่าผู้ชายกับผู้หญิง อารมณ์ทางเพศตื่นตัวเร็วช้าต่างกัน – ผู้ชายตื่นตัวง่ายเหมือนเตาแก๊ส ส่วนผู้หญิงตื่นตัวช้าเหมือนเตาถ่าน…บางคนต่อความยาวสาวความยืด… กะเทยตื่นตัวแบบเตาอบไมโครเวฟ… เธอตั้งอุณหภูมิและเวลาได้ตามความเหมาะสม…

เพราะฉะนั้น เสื้อผ้าน้อยชิ้นหรือรัดรูป เห็นร่องรอยทรวดทรงองค์เอวของคุณผู้หญิง เป็นเสมือนเครื่องรางของขลัง ที่มีเวทมนต์ดลบันดาลให้ผู้ชายดีๆแปลงร่างกลายพันธุ์เป็นสุนัขป่าล่าเหยื่อได้ – ผู้หญิงอาจบอกว่าแต่งโชว์กันเองในหมู่เพื่อนหญิง หนูไม่คิดอะไรมาก…แต่ผู้ชายรู้สึกเยอะ

เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้…แต่งโป๊ๆ เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิงเป็นหมู่ๆ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าไปกับผู้ชายสองต่อสอง ต้องหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง…เพราะผู้ชายอาจแก้มนต์ขลังของเราโดยการ "เสกเนื้อเข้าท้อง" หรือมันเล่น "ทำของใส่" …แล้วเราจะเป็นฝ่ายเดือดร้อน

๓. อย่าเปิดไฟเขียว

เป็นผู้หญิงต้องหัดรู้จักปฏิเสธซะ บ้าง ไม่ใช่ผู้ชายจะทำอะไร เราไม่ชอบก็ยอมเขาไปหมด ต้องรู้จักใช้ปากในการปฏิเสธ หัดพูดคำว่า "ไม่" "อย่า" "หยุด" …สองคำหลัง ห้ามพูดติดกัน!

คำปฏิเสธของเราเปรียบเสมือนสัญญาณไฟแดงบอกให้ฝ่ายชายหยุดการกระทำใดๆ ที่เป็นการเคลื่อนไหว… ถ้ายังไม่หยุด แนะนำว่าควรลุกเดินหนี เพราะบางราย ถ้าเราแค่พูดเฉยๆ เขาอาจคิดว่าเราปฏิเสธพอเป็นพิธี

เวลาไปดูหนังด้วยกัน ในโรงหนังจะปิดไฟมืด แม้มีคนมาก แต่ก็เหมือนอยู่กันสองต่อสอง ดูหนังไปอาจเห็นฉากเลิฟซีนรัญจวนใจยั่วเย้าให้เกิดอารมณ์…ขณะเดียวกันกับที่ฝ่ายชายก็รุกเร้าด้วยการสัมผัส อาจเริ่มต้นที่วงแขนก่อนที่จะขยายวงกว้างขึ้นๆ…

เราเป็นผู้หญิง ไม่ถูกใจก็ต้องกล้าพูด
"นี่เธอทำอะไร หยุดนะ! เอามือออกจากแขนฉันเดี๋ยวนี้….แ
ล้วไปวางไว้ที่หน้าขา"
…หมายถึงหน้าขาของฝ่ายชายครับ! อย่าเข้าใจผิด!

๔. เจอกันครึ่งทาง

บ่อยครั้งเหลือเกินที่ผู้หญิงเองก็ได้รับสัมผัสแห่งความรู้สึกอันอบอุ่น ไว้วางใจ เชื่อมั่น ปลอดภัย และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายซึ่งยากต่อการปฏิเสธ…คุณก็รอโอกาสนี้มานานแล้ว ความรู้สึกโหยหาและหวงแหนทำให้คุณมิอาจเอ่ยคำพูดอันเป็นเหตุทำให้ชายที่คุณรักรีบ "ถอนสมอ" ขณะที่เขากำลังเตรียมพร้อมจะจอดเทียบ "ท่าใจ" ของคุณ

คุณจึงไม่ยอมให้เขา "มือหลุด" เพราะไม่อยากให้เขา "หลุดมือ" ด้วยเหตุที่เขาเป็นผู้ชายที่คุณมองเห็นแล้วว่าดีพอสำหรับคุณ… อย่างที่เคยบอกกันอยู่ ผู้ชายดีๆ เดี๋ยวนี้หายาก…และผู้ชายดีๆ แท้ๆ ยิ่งหายากกว่า

การสัมผัสทางกาย เป็นการสื่อสารความรู้สึกผูกพันต่อกัน บ่งบอกอีกหลากหลายอารมณ์ที่ถ้อยคำวาจาก็มิอาจแทนใจ… แต่คุณจะกั้นพรมแดนของการสัมผัสอยู่แค่ไหน เพื่อที่จะถ่ายเทความรักจากใจสู่ใจระหว่างกัน… โดยที่คุณทั้งสองตระหนักถึงความไม่พร้อมที่จะมี "กิจกรรมเข้าจังหวะ" ทางกายระหว่างกัน

ถ้าแฟนขอที่จะร่วมรักด้วย แต่คุณคิดว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะไปถึงจุดนั้น… ต้องรู้เทคนิคการเจรจาต่อรองเพื่อพบกันครึ่งทาง…สถานการณ์สมมติ…

คุณพ่อจะทำยังไง ถ้าลูกสาวอยากให้คุณพาไปดูหนัง แต่คุณพ่ออยากนอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน จะไปดูหนังตามใจลูกสาวก็ฝืนใจตัวเอง จะบังคับให้ลูกสาวอยู่บ้านก็ไม่อยากขัดใจลูก… ทางออกที่ไม่ทำร้ายจิตใจทั้งสองฝ่ายอาจเป็นการตกลงเช่า VDO มาดูที่บ้านดีกว่า… อย่างนี้เรียกว่า "เจรจาต่อรอง" เป็นการพบกันครึ่งทางโดยแท้

เพศสัมพันธ์ (Sexual Relationship) คือกิจกรรมทางกายระหว่างคนสองคน ไม่จำเป็นต้องเป็นการร่วมเพศ (Sexual Intercourse) เสมอไป…แต่เพราะคำว่าเพศสัมพันธ์ฟังแล้วนุ่มกว่าคำว่าร่วมเพศ คนทั่วไปจึงเอามาใช้แทนกัน เหมือนเราใช้คำว่า "แฟน" แทนคำว่า "สามีหรือผัว"…ดังนั้นต้องแยกความแตกต่างให้ออก

หญิงชายที่รักกันจึงสามารถมีกิจกรรมทางผิวหนังให้เลือกมากมายตั้งแต่ จับมือ เดินจูงมือกัน คล้องแขน ซบไหล่ โอบคอ กอดเอว หอมแก้ม ซุกไซ้ซอกคอ จูบปาก กอดรัด(ฟัดเหวี่ยง) ถูไถไปมาภายนอก สำเร็จความใคร่ให้แก่กันและกัน และอื่นๆ อีกมากมาย……โดยไม่มีการ "เติมคำลงในช่องว่าง"

…หัดพูดประโยคต่อไปนี้…
"ฉันรักเธอมาก แต่ฉันยังไม่พร้อม แค่เธอกอดฉันไว้แน่นๆ ฉันก็มีความสุขแล้ว"
"ฉันจะยอมต่อเมื่อเราเป็นสามีภรรยากันแล้วเท่านั้น ตอนนี้เรามีอะไรกันภายนอกก็พอ"

๕. รู้จักป้องกันตนเอง

หากคุณทั้งสองพร้อมที่จะขยายพรมแดนกิจกรรมแห่งความรัก พร้อมที่จะพลีกายให้แก่กันและกัน สำหรับวัยรุ่นมีความเหมาะสมหรือไม่ ยังเป็นข้อถกเถียงกันทั่ว แต่อย่าติดเพียงแค่มองว่าเด็กมีปัญหา แต่ต้องมองให้เห็นรากเหง้าสาเหตุของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

เดี๋ยวนี้วัยรุ่นรับวัฒนธรรมตะวันตกผ่านสื่อที่มีรูปแบบพัฒนาตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ในขณะที่วัฒนธรรมไทยอ่อนกำลังลง…คำสอนประเภทให้รักนวลสงวนตัว อย่าชิงสุกก่อนห่าม อดเปรี้ยวไว้กินหวาน กลายเป็นคำสอนเชยๆในสายตาวัยรุ่นซะแล้ว

ฉะนั้นแทนที่ผู้ใหญ่จะมัวแต่ตำหนิพฤติกรรมวัยรุ่น เรามาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้วัฒนธรรมไทยเข้มแข็งขึ้นกว่านี้ …เลิกคิดว่าเด็กเป็นตัวปัญหา เพราะแท้จริงเขาเป็นเหยื่อของผู้ใหญ่…ที่อยากได้ตังส์จากเด็ก

ผมให้ความเห็นส่วนตัวว่า เซ็กส์ในวัยเรียนมีสองแบบ…เซ็กส์โง่กับเซ็กส์ฉลาด

ถ้าถูกเขาหลอกกินไข่แดง หลงเชื่อคำหวาน ไม่รู้จักปฏิเสธ ไม่รู้วิธีป้องกัน อย่างนี้เรียกว่าเซ็กส์โง่ โง่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง…แต่ผู้
หญิงรับผลกรรม (ท้องไม่มีพ่อ หรือติดโรค) ถ้าผู้ชายมันไม่รับผิดชอบ
แต่หากเซ็กส์นั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรักอันแน่นแฟ้น รู้จักป้องกันโทษที่อาจเกิดขึ้น คือ การตั้งครรภ์และการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อย่างนี้เรียกว่าเซ็กส์ฉลาด

ต้องรู้จักรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ทำแล้วมานั่งทุกข์ทรมานใจภายหลัง เช่นรู้สึกผิด เศร้า หรือกังวล…ไม่คุ้มเลยเมื่อต้องแลกกับความสุขแป๊บเดียว เสียวชั่วคราว แล้วต้องเศร้าเนิ่นนาน ทรมานใจไปชั่วชีวิต

ถุงยางอนามัยคือทางเลือกสุดท้ายจริงๆ หลังจากที่ผ่านมาหมดแล้วทุกขั้น

ตอนที่กล่าวมา หน้าที่ของผมก็คงให้ข้อมูลคุณได้เท่านี้…

ส่วนหน้าที่ในการตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับเจ้าของอวัยวะเพศของตัวเอง…ของใครของมัน

ที่มา----พระมหาทองมั่น สุทธจิตโต



28.3.11

2555โลกาวินาศ!?

 


นับตั้งแต่มนุษยชาติเริ่มก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เป็นต้นมา ทั่วโลกต่างก็ระส่ำระสาย กับปรากฏการณ์ภัยพิบัติจากธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง และถี่ยิบ อะไรที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน.....
ปริศนา "มายา" อวสานโลกจริงหรือ?

         นับตั้งแต่มนุษยชาติเริ่มก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เป็นต้นมา ทั่วโลกต่างก็ระส่ำระสาย กับปรากฏการณ์ภัยพิบัติจากธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง และถี่ยิบ อะไรที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน อะไรๆ ที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นกันในยุคสมัยนี้
       
       ไล่มาตั้งแต่ปรากฏการณ์ Y2K ซึ่งเป็นที่ฮือฮาในช่วงใกล้สิ้นสุดปี 1999 คนทั้งโลกต่างเฝ้าลุ้นระทึกกันว่า ระบบปฏิทินในเครื่องคอมพิวเตอร์จะเกิดอาการรวน และอาจสร้างความปั่นป่วนแก่ ระบบการสื่อสาร ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็ก ทรอนิกส์ทั้งหลายหรือไม่ แต่สุดท้ายโลกก็ไม่ได้โกลาหลอย่างที่คาดการณ์
     
      กระนั้นชาวโลกก็ยังมีเรื่องให้หวาดผวากับมหันตภัยครั้งใหม่ จากกระแสตื่นตัวสภาวะโลกร้อน นักวิทยาศาสตร์หลากสาขา หลายองค์กร เคลื่อนขบวนออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกัน ถึงปรากฏการณ์วิปริตของสภาพอากาศ อุณหภูมิจะพุ่งสูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย เป็นเหตุให้น้ำทะเลกลืนกินหลายพื้นที่ บางพื้นที่ถึงขั้นถูกเขมือบหายไปจากแผนที่โลก
       
     ถัดจากนั้นไม่นานนักก็เกิดเหตุธรณีพิโรธ สึนามิถล่ม พายุคลั่ง ฝนฟ้าวิปโยค แผ่นดินแล้ง หิมะตกในหลายพื้นที่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ตอกย้ำถึงความวิบัติที่คืบคลานเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

   ด้วยความวิปริตผิดเพี้ยนของสภาพอากาศและภัย พิบัติจากธรรมชาติที่สร้างความหวาดผวาให้กับมนุษยชาติมาโดยตลอด และนับวันก็ยิ่งถี่ขึ้น รุนแรงขึ้น ใกล้ตัวมากขึ้น จนทำให้หลายคนเริ่มปักใจเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณเตือนภัย หรือ “ลางบอกเหตุ” ก่อนที่โลกจะแตกดับในเวลาไม่ช้าไม่นานนับจากนี้
          ในภาวะโลก “จิตตก” คนจำนวนหนึ่งพยายามผูกโยงข้อมูล กับคำทำนายทายทักของเหล่าหมอดูสำนักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “นอสตราดามุส” ไปจนถึงเรื่องราวประเภทอัศจรรย์พันลึกต่างๆ นานาที่มีการฟอร์เวิร์ดเมลลูกโซ่กันให้ว่อนอินเทอร์เน็ต ไม่เว้นกระทั่งในแวดวงนักวิทยาศาสตร์ที่บางรายได้ผันตัวมาเป็น “นักวิชาเกิน” ไปแล้วก็มี
         
    หลักฐานชิ้นหนึ่งที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาเอ่ยอ้างถึงอยู่เสมอก็คือ “ปฏิทินมายา” เพราะมีความขลังชวนให้น่าเชื่อถือหรือคล้อยตาม ด้วยความเก่าแก่นับเป็นพันๆ ปี
       
      ปฏิทินที่ว่านี้เป็นปฏิทินโบราณของชนเผ่ามายา ซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนยูคาทาน ในพื้นที่ประเทศเม็กซิโกและกัวเตมาลา ราว 300 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 16 ว่ากันว่าเป็นชนชาติหนึ่ง ที่มีความก้าวหน้าทางวิทยาการด้านการคำนวณและดารา ศาสตร์อย่างน่าพิศวง

      สิ่งที่ชาวมายาได้คิดค้นขึ้นมาก็คือปฏิทิน และสูตรการคำนวณบางประการที่แทบไม่น่าเชื่อว่า ชนเผ่าโบราณอันลึกลับนี้จะ สามารถทำได้ในยุคสมัยนั้นๆ ทว่าวัน-เดือน-ปีในปฏิทินเจ้ากรรมที่บันทึกไว้บนแผ่นศิลานั้น กลับไปสิ้นสุดเอาในวันที่ 21 ธ.ค. 2555 (ค.ศ. 2012) ทำให้เกิดการตีความกันว่า นั่นคือ “วันอวสานโลก!”

        ความตื่นตระหนกเช่นนี้ ได้แผ่ซ่านลึกเข้าไปถึงความคิดความเชื่อของคนจำนวน หนึ่งจนยากจะถ่ายถอนคืนมาได้ ซ้ำยังมีการขยายความต่อเติมให้ตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้นไปอีก เช่น ขั้วแม่เหล็กโลกอาจจะพลิกกลับด้านสลับตำแหน่งกัน ระหว่างขั้วเหนือกับขั้วใต้ ส่งผลให้โลกสูญเสียอำนาจแห่งสนามแม่เหล็ก เมื่อนั้นสิ่งมีชีวิตบนโลกอาจต้องเจอกับหายนะจาก “พายุสุริยะ” ซึ่งเกิดจากการปล่อยพลังงานนิวเคลียร์ อันมหาศาลจากดวงอาทิตย์พุ่งเข้าใส่โลก เป็นต้น
       
       นิพนธ์ ทรายเพชร ราชบัณฑิตสาขาวิชาดาราศาสตร์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และนายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย เขียนบทความเรื่อง “2012 โลกล่มสลายจริงหรือ?” โดยระบุไว้ว่า กระแสข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องโลกแตก โลกล่มสลาย เหตุเพราะปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ได้รับการบอกกล่าวมาทุกยุคทุกสมัย เช่น เมื่อดาวเคราะห์มาเรียงกันก็จะมีคนบอกว่า จะเกิดแผ่นดินไหวบนโลกมากขึ้น โลกจะสิ้นสลายลงในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 ซึ่งถือเป็นข่าวที่พูดกันปากต่อปาก

      นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย ระบุว่า ปฏิทินของมายาบ่งบอกถึงความรู้และอารยธรรม ซึ่งเป็นที่ยอมรับมาเป็นเวลาหลายพันปี โดยมีวันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 14 ส.ค. 3114 ปีก่อนคริสตศักราช และมีวันสุดท้ายตรงกับวันที่ 21 ธ.ค. 2012 แต่ผู้ที่เชื่อเรื่องนี้ได้พยายามหาปรากฏการณ์อื่นมาเสริม เช่น เชื่อว่าพวกสุเมเรียนได้ค้นพบดาวเคราะห์ดวงหนึ่งชื่อ “นิมิรุ” เคลื่อนรอบดวงอาทิตย์รอบละ 3,600 ปีกำลังจะมาชนโลก ซึ่งในวงการดาราศาสตร์ยังไม่พบดาวเคราะห์ดังกล่าวแต่อย่างใด

          ขณะที่ ชัชรินทร์ ไชยวัฒน์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “21 ธันวา 2012 วันพลิกชะตาโลก” อธิบายไว้ในหนังสือว่า ก่อนที่จะวิเคราะห์แจกแจงเรื่องคอขาดบาดตายอย่างวันสิ้นโลก ควรต้องแยกแยะเหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ออกเป็นสปีชีส์เสียก่อน เพราะคนเหล่านี้มีทั้งประเภทหนักแน่นทางวิชาการ บางรายก็หนักไปในทางจินตนาการ มีสีสันวิจิตรพิสดารเกินกว่าจะนำมาอ้างอิงได้ หาไม่แล้วอาจก่อให้เกิดความหูแหก ตาแหกต่อคนทั้งโลกได้
         
     ชัชรินทร์ ระบุว่าข้อเท็จจริงเรื่องผลกระทบจากสภาวะความเปลี่ยนแปลงของดิน-ฟ้า-อากาศ ทั้งพายุ น้ำท่วม ดินถล่ม ตามที่นักวิทยาศาสตร์แต่ละสาขาได้ศึกษารวบรวมไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความพังพินาศในระดับที่ครอบคลุมในทุกเรื่องทุกกรณี โดยองค์กร World Wild Fund for Nature (WWF) เผยข้อมูลเมื่อเดือน ม.ค. 2003 ว่า พืชและสัตว์นับหมื่นๆ สายพันธุ์ กำลังตกอยู่ในภาวะหมิ่นเหม่ต่อการ|สูญพันธุ์ภายใน 20 ปีข้างหน้าจนแทบเกลี้ยงโลก ขณะที่นักวิทยาศาสตร์องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดวันตายของแนวปะการัง The Great Barrier Reef ว่าไม่น่าจะอยู่รอดเกินปี 2030  “ภายใต้สภาพเช่นนี้...มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ จะไปเหลืออะไร และจะไปมีอะไรให้เหลือ นอกจากจะไม่มีพืช ผัก ผลไม้ สัตว์ป่า สัตว์น้ำให้รับประทานแล้ว โอกาสที่จะเพาะปลูก ไถหว่าน ผลิตอาหารเลี้ยงตัวเองยังแทบเป็นไปไม่ได้อีกด้วย เนื่องจากบรรดาก๊าซเรือนกระจกแต่ละชนิดได้จับตัวในชั้นบรรยากาศ ร่วงหล่นลงมากลายเป็นฝนกรด...” ชัชรินทร์ ระบุ
       
       ชัชรินทร์ ชี้ให้เห็นว่า ภายใต้สภาวะความผันผวนของดินฟ้าอากาศเช่นนี้ ยังเป็นตัวการสำคัญในการผลิต “อาวุธสังหาร” อีกชนิดหนึ่งที่สามารถล้างผลาญผู้คนรวดเดียวนับเป็นสิบๆ ร้อยๆ ล้านคน นั่นก็คือ “โรคระบาด” โดยองค์การอนามัยโลกสรุปไว้ว่า ผลจากความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างฉับพลันทันที จะทำให้เชื้อโรคนานาชนิดเกิดอาการกลายพันธุ์
       
        อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า ไม่ว่าเรื่องราวว่าด้วยประวัติศาสตร์ ตำนานปฏิทินของชาวมายา ตลอดจนถึงจินตนาการและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จะถูกนำมาตีความผูกโยงจนเป็นคำ ร่ำลือเรื่อง “วันสิ้นโลก” แต่ท้ายที่สุดแล้วโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติ ก็ใช่ว่าจะ เป็นไปไม่ได้เอาเลย ตรงกันข้ามสภาพความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ยิ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า วันนั้นจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน เพียงแต่จะเป็นวันไหนเท่านั้น!
       
   ในย่อหน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ ชัชรินทร์ได้ขมวดข้อสรุปทั้งหมดไว้ อย่างลึกซึ้งว่า “...เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหันมาตระหนักถึงความเป็นไปได้ของโลก ซึ่งกำลังแสดงออกถึงความวิปริต ผันผวน ให้เห็นอย่างชัดเจนต่อหน้าต่อตา แล้วหันมาทบทวนความรู้สึกนึกคิดของตัวเราเอง ด้วยสติ ด้วยปัญญา จนสามารถค้นพบจุดมุ่งหมายในการมีชีวิต...ถึงวันนั้นนั่นแหละที่เราจะกลาย เป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลก หรือเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลง โดยไม่จำเป็นต้องรอไปถึงวันที่ 21 ธ.ค. 2012 แต่สามารถเริ่มต้นกันได้ ณ วันนี้ และ ณ วินาทีนี้”

รับมือวิกฤตอาหารโลก

พืช
         กรมการข้าว ระบุว่า หากโลกมีอุณภูมิสูงขึ้นไม่เกิน 45-48 องศาเซลเซียส แม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อต้นข้าวโดยตรง เนื่องจากข้าวเป็นพืชในเขตอากาศร้อนชื้นอยู่แล้ว แต่อาจมีผลกระทบต่อระยะเวลาเก็บเกี่ยว เช่น หากฤดูร้อนยาวนานขึ้น ระยะเวลาการปลูกข้าวจะสั้นลงเหลือไม่ถึง 120 วัน ทำให้ข้าวไม่สามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดปัญหา “ข้าวท้องไข่” หรือหากฤดูหนาวยาวนานขึ้นก็จะส่งกระทบต่อระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวข้าวที่ขยายออกไปมากกว่า 120 วัน ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตต่อไร่ลดลง

        หลังเกิดวิกฤตการณ์โลกร้อน นักวิชาการได้มีการพัฒนาข้าวสายพันธุ์ทนแล้ง เช่น กข.15 ข้าวหอมมะลิ 105 พันธุ์ข้าวทนน้ำหรือข้าวฟางลอย เช่น ข้าวพลายงาม ปราจีนบุรี 1 ปราจีนบุรี 2 อยุธยา 1 ส่วนพันธุ์ข้าวทนแมลง เช่น ข้าวสุพรรณบุรี ชัยนาท และปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม สำหรับพันธุ์ข้าวทนแมลงนั้น กรมการข้าวระบุว่า ในวงรอบ 2-3 ปี แมลงจะพัฒนาและกินข้าวชนิดนั้นได้ ทำให้ยังไม่มีข้าวชนิดใดทนแมลงถาวร ต้องใช้วิธีสลับพันธุ์ปลูกในแต่ละปี

แมลง
         กรมวิชาการเกษตร พบว่า หากสภาพอากาศแปรปรวนผิดธรรมชาติ โอกาสที่จะเกิดแมลงศัตรูพืชชนิดใหม่ๆ ก็มีเพิ่มขึ้นและส่งผลกระทบรุนแรงมากขึ้น เช่น ในรอบปีที่ผ่านมาพบการแพร่ระบาดของ “เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล” ที่กัดกินข้าวเสียหายหลายล้านไร่ และ “เพลี้ยแป้งสีชมพู” กัดกินต้นมันสำปะหลังเสียหายนับล้านไร่เช่นกัน ส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตอย่างมาก นอกจากนี้ยังพบ แมลงหนอนหัวดำ แมลงดำหนามมะพร้าว ซึ่งทำลายสวนมะพร้าวจนเกิดความเสียหายกว่า 4 แสนไร่ จนเกิดวิกฤติขาดแคลนมะพร้าวในประเทศ
         แนวทางในการรับมือนั้น กรมวิชาการเกษตร ระบุว่า นอกจากกำจัดด้วยสารเคมี ทางกรมยังได้เตรียมการรับมือโดยใช้ “ชีววิธี” เช่น การใช้แมลงตัวห้ำ ตัวเบียน การใช้เชื้อจุลินทรีย์ เชื้อรา เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของศัตรูพืช ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นกรณีการใช้แมลงช้างปีกใส เป็นตัวห้ำเพลี้ยแป้งสีชมพูในไร่มัน สำปะหลัง โดยได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

ปศุสัตว์
         กรมปศุสัตว์มีการ พัฒนาสายพันธุ์โค สุกร และไก่ ที่มีความทนแล้งได้ดี ขณะเดียวกันก็ให้เนื้อด้วย เช่น การผสมพันธุ์โคพื้นเมืองของไทยกับพันธุ์ต่างประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้แก่ โคพันธุ์ตาก กำแพงแสน เป็นต้น ขณะที่สุกร มีการพัฒนาสายพันธุ์ปากช่อง 1, 2, 3 ซึ่งทนอากาศร้อนได้มากขึ้น และปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก ด้านไก่ ได้มีการนำพันธุ์พื้นเมืองมาพัฒนาให้ได้สายพันธุ์พื้นเมืองแท้ และให้ลูกที่เป็นพันธุ์แท้ด้วยเช่นกัน เช่น พันธุ์กบินทบุรี พันธุ์ประดู่หางดำ พันธุ์เหลืองหางขาว และได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างมาก
ขณะเดียวกัน แนวทางการลดการปล่อยก๊าซจากมูลสัตว์สู่อากาศนั้น กรมปศุสัตว์ได้ร่วมมือกับธนาคารโลก ระยะเวลาโครงการ 3 ปี ในการนำมูลสัตว์จากฟาร์มทั่วประเทศมาผลิตเป็นไบโอแก๊ซและปุ๋ย ซึ่งประสบความสำเร็จมาก โดยพบว่า บางฟาร์มนอกจากผลิตไบโอแก๊ซใช้เองได้แล้วยังเหลือจำหน่ายโรงไฟฟ้า ได้อีกด้วย

................................................................................................. 

ที่มา....วิเคราะห์»สดจากสนาม»ประเด็น:สึนามิถล่มญี่ปุ่น»posttoday.com

26.3.11

ขั้นตอนการปฏิบัติตัวรับมือแผ่นดินไหว

 

ขั้นตอนการปฏิบัติตัวรับมือแผ่นดินไหว

ก่อนการเกิดแผ่นดินไหว 

ควรมีไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย และกระเป๋ายาเตรียมไว้ในบ้าน และให้ทุกคนทราบว่าอยู่ที่ไหน

ศึกษาการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ควรมีเครื่องมือดับเพลิงไว้ในบ้าน เช่น เครื่องดับเพลิง ถุงทราย เป็นต้น

ควรทราบตำแหน่งของวาล์วปิดน้ำ วาล์วปิดก๊าซ สะพานไฟฟ้า สำหรับตัดกระแสไฟฟ้า

อย่าวางสิ่งของหนักบนชั้น หรือหิ้งสูง ๆ เมื่อแผ่นดินไหวอาจตกลงมาเป็นอันตรายได้

ผูกเครื่องใช้หนัก ๆ ให้แน่นกับพื้นผนังบ้าน

ควรมีการวางแผนเรื่องจุดนัดหมาย ในกรณีที่ต้องพลัดพรากจากกันเพื่อมารวมกันอีกครั้งในภายหลัง

สร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว

ระหว่างเกิดแผ่นดินไหว

อย่าตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติอยู่อย่างสงบ ถ้าท่านอยู่ในบ้านก็ให้อยู่ในบ้าน ถ้าท่านอยู่นอกบ้านก็ให้อยู่นอกบ้าน เพราะส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเพราะวิ่งเข้าออกจากบ้าน

ถ้าอยู่ในบ้านให้ยืนหรือหมอบอยู่ในส่วนของบ้านที่มีโครงสร้างแข็ง แรง ที่สามารถรับน้ำหนัก ได้มาก และให้อยู่ห่างจากประตู ระเบียง และหน้าต่าง

หากอยู่ในอาคารสูง ควรตั้งสติให้มั่น และรีบออกจากอาคารโดยเร็ว หนีให้ห่างจากสิ่งที่จะล้มทับได้

ถ้าอยู่ในที่โล่งแจ้งให้อยู่ห่างจากเสาไฟฟ้าและสิ่งห้อยแขวนต่าง ๆ ที่ปลอดภัยภายนอกคือที่โล่งแจ้ง

อย่าใช้ เทียน ไม้ขีดไฟ หรือสิ่งที่ทำให้เกิดเปลวหรือประกายไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วอยู่บริเวณนั้น

ถ้าท่านกำลังขับรถให้หยุดรถและอยู่ภายในรถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด

ห้ามใช้ลิฟท์โดยเด็ดขาดขณะเกิดแผ่นดินไหว

หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง

หลังเกิดแผ่นดินไหว

ควรตรวจตัวเองและคนข้างเคียงว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ให้ทำการปฐมพยาบาลขั้นต้นก่อน

ควรรีบออกจากอาคารที่เสียหายทันที เพราะหากเกิดแผ่นดินไหวตามมาอาคารอาจพังทลายได้

ใส่รองเท้าหุ้มส้นเสมอ เพราะอาจมีเศษแก้ว หรือวัสดุแหลมคมอื่น ๆ และสิ่งหักพังแทง

ตรวจสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ถ้าแก๊สรั่วให้ปิดวาล์วถังแก๊ส ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟ หรือก่อไฟจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว

ตรวจสอบว่า แก๊สรั่ว ด้วยการดมกลิ่นเท่านั้น ถ้าได้กลิ่นให้เปิดประตูหน้าต่างทุกบาน

ให้ออกจากบริเวณที่สายไฟขาด และวัสดุสายไฟพาดถึง

เปิดวิทยุฟังคำแนะนำฉุกเฉิน อย่าใช้โทรศัพท์ นอกจากจำเป็นจริง ๆ

สำรวจดูความเสียหายของท่อส้วม และท่อน้ำทิ้งก่อนใช้

อย่าเป็นไทยมุงหรือเข้าไปในเขตที่มีความเสียหายสูง หรืออาคาร

อย่าแพร่ข่าวลือ

ที่มา---อาสาสมัครฟื้นฟูประเทศไทย,docs.google.com

12.3.11

ความแตกต่างระหว่างชายกะหญิง

 

ชื่อธาตุ : หญิง ชื่อทางเคมี Fe+male

ชื่อธาตุ : ชาย ชื่อทางเคมี : Male

คุณสมบัติของผู้หญิง

ชื่อธาตุ - Women

สูตรทางเคมี - FE + MALE

ผู้ค้นพบ - MAN
มวลอะตอม - มาตรฐาน 50 กิโลกรัม แต่อาจเปลี่ยนแปรได้จาก 40 - 80 กิโลกรัม ตามสารอาหารที่ได้รับ

ลักษณะทั่วไป - เหมือนกันหมด

คุณสมบัติทางฟิสิกส์

1. พื้นผิวทุกส่วนเคลือบด้วยสารหอมระเหย และครีมบำรุง

2. เดือดที่อุณหภูมิต่าง ๆ เอาแน่ไม่ได้

3. ถึงจุดเยือกแข็งทันทีทันใดโดยไม่รู้สาเหตุ และอาจอยู่ที่จุดเยือกแข็งได้นานเป็นสัปดาห์

4. หลอมละลายได้เร็วหากได้รับการเอาใจอย่างถูกวิธี

5. มีรสเผ็ดและขมหากใช้ผิดวิธี

6. แปรเปลี่ยนได้หลายสถานะตั้งแต่แข็งเป็นหิน จนถึงอ่อนเป็นขี้ผึ้ง      ลนไฟ

7. ไม่ทนต่อการเสียดสี

คุณสมบัติทางเคมี

1. บ้างมีรสเป็นกรด บ้างหวานกว่าน้ำตาล บ้างเปรี้ยวอมหวาน

2. ทำปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วกับ เพชร ทอง ดอกไม้ และสิ่งของสวยงามทุกชนิด

3. ดูดซึมข้อมูลข่าวสารรอบตัวได้และบันทึกความจำที่ไม่สามารถลบได้ในหน่วยความจำระดับมหภาค

4. อาจระเบิดอย่างต่อเนื่องได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า

5. มีคุณสมบัติละลายทรัพย์ได้ดีเมื่อผ่านห้างสรรพสินค้า

6. เข้าเป็นเนื้อเดียวกันได้กับผลไม้รสเปรี้ยว ผักและสลัด

การทดสอบ

- วัตถุตัวอย่างจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มเมื่อถูกสัมผัส

- วัตถุตัวอย่างจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อวางถัดจากตัวอย่างที่สวยกว่า

- วัตถุตัวอย่างจะเปลี่ยนเป็นส่งเสียงไม่หยุดเมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม

ประโยชน์

- แบกโลกไว้ครึ่งหนึ่ง

- ดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์

- ทำโลกให้สดใส

- สร้างความอ่อนโยนให้เกิดในสังคมมนุษย์

ข้อควรระวัง

- สัมผัสด้วยความประณีตและให้เกียรติ มิฉะนั้นอาจได้รับอันตราย

- ครอบครองได้เพียงชิ้นเดียว ใครฝ่าฝืนจะเกิด "สามเส้าดีซีส" ทำให้ทุรนทุราย

คุณสมบัติของผู้ชาย

ชื่อธาตุ - MAN

สูตรทางเคมี - MA-LE

ผู้ค้นพบ - WOMAN

มวลอะตอม - ความยาว 170 ซม. แต่อาจเปลี่ยนแปรได้ตั้งแต่ 160 - 200 ซม.  แล้วแต่ว่าค้นพบในทวีปใด

ลักษณะทั่วไป - คล้ายกันหมดเมื่อสัมผัสสิ่งสวยงาม

คุณสมบัติทางพันธุศาสตร์

1.เจริญเติบโตได้ดีในนิโคตินและแอลกอฮอล์

2. ชอบความรุนแรง

3. เฉาง่าย หากไม่ได้รับการเอาอกเอาใจ

4. อยู่ไม่เป็นที่ ชอบอยู่ตามที่ต่าง ๆ หาตัวยาก

5. เปลี่ยนแปลงได้หลายสปีชีส์ แล้วแต่สถานการณ์

6. การตอบสนองช้า ทนต่อการเสียดสีได้ดีมาก

คุณสมบัติทางเคมี

1. มีสารประกอบใช้ทำยาระบายและยาเบื่อได้ดี

2. ทำปฏิกิริยารวดเร็วกับสิ่งสวยงามที่ผ่านหน้า

3. เปลี่ยนได้หลายสี ตามแต่ถิ่นที่อยู่อาศัย

การทดสอบ

เมื่อตัดเนื้อเยื่อมาวิเคราะห์พบว่า ส่วนหน้ามีความหนามากกว่าส่วนอื่น

ประโยชน์

1. เป็นเพื่อนเล่นยามเหงา

2. เป็นยามเฝ้าบ้านที่ดี เอาไว้ป้องกันตัวได้

3. เป็นพาหนะ ใช้แบกขนสัมภาระได้ ยามช้อปปิ้ง

ข้อควรระวัง

1.ควรเลี้ยงด้วยความระวังมิเช่นนั้น อาจนอกลู่นอกทาง

2.ไม่ควรให้อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เพราะจะยิ่งช่วยเร่งคุณสมบัติทางพันธุศาสตร์

ที่มา---รศ.สายยัณห์ ละออเอี่ยม

9.3.11

โปรแกรมที่ลงแล้วต้องใช้ตลอดชีวิต

 

**เรื่อง พบปัญหา (Bugs) ของโปรแกรม

***เมื่อปีที่แล้วผมได้อัพเกรดโปรแกรม จาก ‘แฟน 7.0′ มาเป็น ‘ภรรยา 1.0′ พบว่าโปรแกรมนี้ มีอาการแปลกๆ รวมถึงกินพื้นที่ และทรัพยากรอันมีค่าเป็นอันมาก และอาการที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีการกล่าวถึงในเอกสารแนะนำสินค้าเลย

***’ภรรยา 1.0′ ได้ทำการติดตั้งตัวเอง และทำงานเอง โดยระบบจะคอยตรวจสอบความ ป็นไปของโปรแกรมอื่นๆ อาทิเช่น ‘ป๊อกเด้ง 10.3′ , อาร์ซีเอ 2.5′ และ ‘จูน่า 5.0′ ทำให้ไม่สามารถรันได้

***และเกิดเหตุการณ์ระบบล่มขึ้น เมื่อโปรแกรม เหล่านี้ถูกเรียกใช้

***ผมจึงคิดที่จะกลับไปใช้ ‘แฟน 7.0′ แต่ปรากฎว่าโปรแกรม Uninstaller ไม่ สามารถทำงานได้ กรุณาช่วยผมด้วยครับ และขอ
ขอบคุณล่วงหน้า

***จาก User ที่มีปัญหา?

***เรื่อง ชี้แจงปัญหา (Bugs) ของโปรแกรม

***นี่เป็นปัญหาที่ลูกค้าได้ติดต่อเข้ามาบ่อยมาก แต่ขอชี้แจงว่าปัญหานี้ เกิดจากความเข้าใจผิดในปฐมบทผู้ใช้ ส่วนมากอัพเกรดจาก

***แฟน 7.0′ ไปเป็น ‘ภรรยา 1.0′ เนื่องจากคิดว่า ‘ภรรยา 1.0′ เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ และเพื่อความบันเทิง (Utilities & Entertainment )

***แต่อันที่จริงแล้ว ‘ภรรยา 1.0′ เป็นระบบจัดการ (Operating System) ซึ่งผู้สร้างได้ออกแบบให้รันทุกอย่าง

***และดูเหมือนว่าคุณจะไม่สามารถ ถอดถอน ‘ภรรยา 1.0′ หรือแม้แต่การแปลงกลับไปเป็น แฟน 7.0′

***เพราะระบบจะทำการจำลอง ‘แฟน 7.0′ ให้ทำงานเป็น ‘ภรรยา 1.0′ อยู่ดี

***ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อันใด แต่มีบางผู้ใช้ท่านได้พยายามที่จะติดตั้ง ‘

***แฟน 8.0′ หรือ ‘Small House 2.0′แต่ท้ายสุดก็มีปัญหา มากขึ้นกว่าเดิม

***ขอให้ท่านดูหนังสือคู่มือการใช้งานในหัวข้อ ข้อควรระวัง – สินไหมทดแทน

***ผม ขอแนะนำให้คุณใช้ ‘ภรรยา 1.0′ ด้วยความระมัดระวัง และผมอยากให้คุณติดตั้งโปรแกรม ‘c:ได้จ้ะที่รัก’ เพื่อป้องกันข้อ ขัดแย้งจากการใช้โปรแกรม ‘ภรรยา 1.0′

***ทาง แก้ที่ดีที่สุด ก็คือคุณจะต้องเรียกคำสั่ง ‘c:ขอโทษจ้ะที่รัก’ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ c:ได้จ้ะที่รัก’ ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่ง’c:ขอโทษจ้ะที่รัก’ จะช่วยให้ระบบจัดการเข้าสู่สภาพปกติได้ และระบบจะทำงานได้อย่างราบรื่นต่อไป

***โปรแกรม ‘ภรรยา 1.0′ เป็นโปรแกรมที่ดี แต่ต้องการการดูแลที่สูง คุณควรที่จะซื้อซอฟแวร์เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ ‘ภรรยา 1.0′

***โปรแกรมที่แนะนำ คือ ?ดอกไม้ 2.0.1′ และชุดโปรแกรม ‘เครื่องเพชร 5.1.2′

***แล้ว ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการติดตั้ง ‘เลขาสุดสวย 36.24.36′ ซึ่งนอกจากจะเป็นโปรแกรมที่ไม่ได้สนับสนุนโดย ‘ภรรยา 1.0′ แล้ว ยังมีโอกาสสูง ที่ทำให้ระบบเสียหายได้

***ขอให้คุณโชคดีนะครับหลังจากได้ใช้โปรแกรมนี้แล้วต้องใช้ตลอดชีวิตแน่ๆ

โดย :จิ้มจุ่ม

ที่มา teenee.com