29.3.11

รู้ไว้ก่อน จะเสียตัว

 


       วันนี้้เอาบทความบทความหนึงมาแบ่งปันเพื่อนๆค่ะ เผือจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย เป็นหมายเหตุ....รู้ไว้ก่อน จะเสียตัว เป็นบทความที่ส่งต่อมาให้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ทั้งชายและหญิง ทุกวัย พ่อ แม่ ครู อาจารย์ ก็นำไปให้สติลูกหลานได้

๕ ขั้นตอนก่อนเสียตัว

๑. อย่าเปิดโอกาส

จากการสัมภาษณ์วัยรุ่นจำนวนมาก พบว่าการมีเซ็กส์ครั้งแรกไม่ได้เกิดขึ้นโดยความตั้งใจหรือมีการเตรียมความพร้อม ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะบรรยากาศพาไป อยู่กันสองต่อสองหรือสถานที่ลับหูลับตา โดยหารู้ไม่ว่าสถานที่ดังกล่าวคือออฟฟิตของเหล่าบรรดาสมาชิกหน่วยล่าพรหมจรรย์

ถ้าเขาชักชวนไปในที่ดังกล่าว เราก็ขอเปลี่ยนเป็นสถานที่ที่ผู้คนชุกชุม เวลาค่ำมืดก็ต้องหลีกเลี่ยง…แผนการที่เขาได้วางไว้ ไม่สามารถลงมือได้…เพราะโอกาสไม
่เอื้ออำนวย
อย่าคิดว่าผู้ชายดีๆ จะไม่เคยคิดชั่ว…สมัยผมเป็นวัยรุ่น คิดชั่วเป็นประจำ แต่ดีอยู่อย่างคือไม่เคยลงมือ… เพราะไม่มีโอกาส… เดี๋ยวนี้ผมมีโอกาสมากมาย แต่ไม่ยอมลงมือ เพราะเลิกคิดชั่วแล้ว…

จากวัยรุ่นอายุใกล้ ๒๐ มาเติบโตจนถึงวัยเกือบ ๔๐…จากคนที่คิดชั่วเป็นประจำ มาเป็นเลิกคิดชั่วแล้ว… การเปลี่ยนแปลงตรงนี้เราเรียกว่า "วุฒิภาวะ" (Maturity) – ส่วนหนึ่งของวุฒิภาวะคือความสามารถในการควบคุมอารมณ์ความต้องการของตนหรือยับยั้งชั่งใจที่จะกระทำ ตามความแรงขับภายในจิตใจของตนเอง หรือพูดให้จำง่ายๆว่า "สมองส่วนคิดควบคุมสมองส่วนอยาก"

เพราะฉะนั้น ในท่ามกลางหมู่เพื่อนวัยหนุ่มฉกรรจ์ซึ่งยังอ่อนวุฒิภาวะ สมองส่วนอยากทำงานมากกว่าสมองส่วนคิด… การปิดโอกาสมิให้ผู้ชายประพฤติชั่ว มีค่าเท่ากับการเปิดโอกาสให้เขารักษาความดี…

๒. อย่าเปิดเครื่องรางของขลัง

ต้องรู้ว่าผู้ชายกับผู้หญิง อารมณ์ทางเพศตื่นตัวเร็วช้าต่างกัน – ผู้ชายตื่นตัวง่ายเหมือนเตาแก๊ส ส่วนผู้หญิงตื่นตัวช้าเหมือนเตาถ่าน…บางคนต่อความยาวสาวความยืด… กะเทยตื่นตัวแบบเตาอบไมโครเวฟ… เธอตั้งอุณหภูมิและเวลาได้ตามความเหมาะสม…

เพราะฉะนั้น เสื้อผ้าน้อยชิ้นหรือรัดรูป เห็นร่องรอยทรวดทรงองค์เอวของคุณผู้หญิง เป็นเสมือนเครื่องรางของขลัง ที่มีเวทมนต์ดลบันดาลให้ผู้ชายดีๆแปลงร่างกลายพันธุ์เป็นสุนัขป่าล่าเหยื่อได้ – ผู้หญิงอาจบอกว่าแต่งโชว์กันเองในหมู่เพื่อนหญิง หนูไม่คิดอะไรมาก…แต่ผู้ชายรู้สึกเยอะ

เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้…แต่งโป๊ๆ เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิงเป็นหมู่ๆ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าไปกับผู้ชายสองต่อสอง ต้องหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง…เพราะผู้ชายอาจแก้มนต์ขลังของเราโดยการ "เสกเนื้อเข้าท้อง" หรือมันเล่น "ทำของใส่" …แล้วเราจะเป็นฝ่ายเดือดร้อน

๓. อย่าเปิดไฟเขียว

เป็นผู้หญิงต้องหัดรู้จักปฏิเสธซะ บ้าง ไม่ใช่ผู้ชายจะทำอะไร เราไม่ชอบก็ยอมเขาไปหมด ต้องรู้จักใช้ปากในการปฏิเสธ หัดพูดคำว่า "ไม่" "อย่า" "หยุด" …สองคำหลัง ห้ามพูดติดกัน!

คำปฏิเสธของเราเปรียบเสมือนสัญญาณไฟแดงบอกให้ฝ่ายชายหยุดการกระทำใดๆ ที่เป็นการเคลื่อนไหว… ถ้ายังไม่หยุด แนะนำว่าควรลุกเดินหนี เพราะบางราย ถ้าเราแค่พูดเฉยๆ เขาอาจคิดว่าเราปฏิเสธพอเป็นพิธี

เวลาไปดูหนังด้วยกัน ในโรงหนังจะปิดไฟมืด แม้มีคนมาก แต่ก็เหมือนอยู่กันสองต่อสอง ดูหนังไปอาจเห็นฉากเลิฟซีนรัญจวนใจยั่วเย้าให้เกิดอารมณ์…ขณะเดียวกันกับที่ฝ่ายชายก็รุกเร้าด้วยการสัมผัส อาจเริ่มต้นที่วงแขนก่อนที่จะขยายวงกว้างขึ้นๆ…

เราเป็นผู้หญิง ไม่ถูกใจก็ต้องกล้าพูด
"นี่เธอทำอะไร หยุดนะ! เอามือออกจากแขนฉันเดี๋ยวนี้….แ
ล้วไปวางไว้ที่หน้าขา"
…หมายถึงหน้าขาของฝ่ายชายครับ! อย่าเข้าใจผิด!

๔. เจอกันครึ่งทาง

บ่อยครั้งเหลือเกินที่ผู้หญิงเองก็ได้รับสัมผัสแห่งความรู้สึกอันอบอุ่น ไว้วางใจ เชื่อมั่น ปลอดภัย และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายซึ่งยากต่อการปฏิเสธ…คุณก็รอโอกาสนี้มานานแล้ว ความรู้สึกโหยหาและหวงแหนทำให้คุณมิอาจเอ่ยคำพูดอันเป็นเหตุทำให้ชายที่คุณรักรีบ "ถอนสมอ" ขณะที่เขากำลังเตรียมพร้อมจะจอดเทียบ "ท่าใจ" ของคุณ

คุณจึงไม่ยอมให้เขา "มือหลุด" เพราะไม่อยากให้เขา "หลุดมือ" ด้วยเหตุที่เขาเป็นผู้ชายที่คุณมองเห็นแล้วว่าดีพอสำหรับคุณ… อย่างที่เคยบอกกันอยู่ ผู้ชายดีๆ เดี๋ยวนี้หายาก…และผู้ชายดีๆ แท้ๆ ยิ่งหายากกว่า

การสัมผัสทางกาย เป็นการสื่อสารความรู้สึกผูกพันต่อกัน บ่งบอกอีกหลากหลายอารมณ์ที่ถ้อยคำวาจาก็มิอาจแทนใจ… แต่คุณจะกั้นพรมแดนของการสัมผัสอยู่แค่ไหน เพื่อที่จะถ่ายเทความรักจากใจสู่ใจระหว่างกัน… โดยที่คุณทั้งสองตระหนักถึงความไม่พร้อมที่จะมี "กิจกรรมเข้าจังหวะ" ทางกายระหว่างกัน

ถ้าแฟนขอที่จะร่วมรักด้วย แต่คุณคิดว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะไปถึงจุดนั้น… ต้องรู้เทคนิคการเจรจาต่อรองเพื่อพบกันครึ่งทาง…สถานการณ์สมมติ…

คุณพ่อจะทำยังไง ถ้าลูกสาวอยากให้คุณพาไปดูหนัง แต่คุณพ่ออยากนอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน จะไปดูหนังตามใจลูกสาวก็ฝืนใจตัวเอง จะบังคับให้ลูกสาวอยู่บ้านก็ไม่อยากขัดใจลูก… ทางออกที่ไม่ทำร้ายจิตใจทั้งสองฝ่ายอาจเป็นการตกลงเช่า VDO มาดูที่บ้านดีกว่า… อย่างนี้เรียกว่า "เจรจาต่อรอง" เป็นการพบกันครึ่งทางโดยแท้

เพศสัมพันธ์ (Sexual Relationship) คือกิจกรรมทางกายระหว่างคนสองคน ไม่จำเป็นต้องเป็นการร่วมเพศ (Sexual Intercourse) เสมอไป…แต่เพราะคำว่าเพศสัมพันธ์ฟังแล้วนุ่มกว่าคำว่าร่วมเพศ คนทั่วไปจึงเอามาใช้แทนกัน เหมือนเราใช้คำว่า "แฟน" แทนคำว่า "สามีหรือผัว"…ดังนั้นต้องแยกความแตกต่างให้ออก

หญิงชายที่รักกันจึงสามารถมีกิจกรรมทางผิวหนังให้เลือกมากมายตั้งแต่ จับมือ เดินจูงมือกัน คล้องแขน ซบไหล่ โอบคอ กอดเอว หอมแก้ม ซุกไซ้ซอกคอ จูบปาก กอดรัด(ฟัดเหวี่ยง) ถูไถไปมาภายนอก สำเร็จความใคร่ให้แก่กันและกัน และอื่นๆ อีกมากมาย……โดยไม่มีการ "เติมคำลงในช่องว่าง"

…หัดพูดประโยคต่อไปนี้…
"ฉันรักเธอมาก แต่ฉันยังไม่พร้อม แค่เธอกอดฉันไว้แน่นๆ ฉันก็มีความสุขแล้ว"
"ฉันจะยอมต่อเมื่อเราเป็นสามีภรรยากันแล้วเท่านั้น ตอนนี้เรามีอะไรกันภายนอกก็พอ"

๕. รู้จักป้องกันตนเอง

หากคุณทั้งสองพร้อมที่จะขยายพรมแดนกิจกรรมแห่งความรัก พร้อมที่จะพลีกายให้แก่กันและกัน สำหรับวัยรุ่นมีความเหมาะสมหรือไม่ ยังเป็นข้อถกเถียงกันทั่ว แต่อย่าติดเพียงแค่มองว่าเด็กมีปัญหา แต่ต้องมองให้เห็นรากเหง้าสาเหตุของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

เดี๋ยวนี้วัยรุ่นรับวัฒนธรรมตะวันตกผ่านสื่อที่มีรูปแบบพัฒนาตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ในขณะที่วัฒนธรรมไทยอ่อนกำลังลง…คำสอนประเภทให้รักนวลสงวนตัว อย่าชิงสุกก่อนห่าม อดเปรี้ยวไว้กินหวาน กลายเป็นคำสอนเชยๆในสายตาวัยรุ่นซะแล้ว

ฉะนั้นแทนที่ผู้ใหญ่จะมัวแต่ตำหนิพฤติกรรมวัยรุ่น เรามาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้วัฒนธรรมไทยเข้มแข็งขึ้นกว่านี้ …เลิกคิดว่าเด็กเป็นตัวปัญหา เพราะแท้จริงเขาเป็นเหยื่อของผู้ใหญ่…ที่อยากได้ตังส์จากเด็ก

ผมให้ความเห็นส่วนตัวว่า เซ็กส์ในวัยเรียนมีสองแบบ…เซ็กส์โง่กับเซ็กส์ฉลาด

ถ้าถูกเขาหลอกกินไข่แดง หลงเชื่อคำหวาน ไม่รู้จักปฏิเสธ ไม่รู้วิธีป้องกัน อย่างนี้เรียกว่าเซ็กส์โง่ โง่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง…แต่ผู้
หญิงรับผลกรรม (ท้องไม่มีพ่อ หรือติดโรค) ถ้าผู้ชายมันไม่รับผิดชอบ
แต่หากเซ็กส์นั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรักอันแน่นแฟ้น รู้จักป้องกันโทษที่อาจเกิดขึ้น คือ การตั้งครรภ์และการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อย่างนี้เรียกว่าเซ็กส์ฉลาด

ต้องรู้จักรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ทำแล้วมานั่งทุกข์ทรมานใจภายหลัง เช่นรู้สึกผิด เศร้า หรือกังวล…ไม่คุ้มเลยเมื่อต้องแลกกับความสุขแป๊บเดียว เสียวชั่วคราว แล้วต้องเศร้าเนิ่นนาน ทรมานใจไปชั่วชีวิต

ถุงยางอนามัยคือทางเลือกสุดท้ายจริงๆ หลังจากที่ผ่านมาหมดแล้วทุกขั้น

ตอนที่กล่าวมา หน้าที่ของผมก็คงให้ข้อมูลคุณได้เท่านี้…

ส่วนหน้าที่ในการตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับเจ้าของอวัยวะเพศของตัวเอง…ของใครของมัน

ที่มา----พระมหาทองมั่น สุทธจิตโต