26.10.12
วันเกิดบอกนิสัย
เชื่อหรือไม่ว่าวันเกิดของแต่ละบุคคล สามารถบ่งบอกนิสัยได้ว่า เป็นคนลักษณะนิสัยแบบใหนกัน เอาล่ะเรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
20.10.12
สิวบอกโรค บอกอารมณ์และโรคร้าย
วันนี้เอาเรื่องสิวมาฝากกัน เนื่องจากช่วงนี้อิฮั้นเป็นสิวฮ่ะ เป็นบ่อยเสียเหลือเกิ๊น ยิ่งขี้เหร่อยู่ และดูจากวัยอันชราก็ไม่น่าจะเกิดสิวขึ้นได้อีก ไปร้่านหมอรักษาเกี่ยวกับผิว หมอบอกว่าเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดไม่เพียงพอ(สงสัยจะจริงมั้ง) แต่เพื่อนที่เป็นพยาบาลกับบอกว่า บางทีสิวที่เป็นมันอาจจะบ่งบอกอาการของโรคเบื้องต้นก็เป็นได้ แล้วมันก็เดินตามตูดหมอหายไป(เฮ้อ !!! ไม่เข้าใจว่าพวกหมอและพยาบาลนี่เค้าจะหยุดเดินเพื่อใ้ห้คนใข้ได้พูดอะไร หรือใด้ทันถามอะไำรสักหน่อยก็ไม่ได้ จะต้องเดินพูดไปเรื่อย ไม่รู้จะรีบร้อนไปใหน) ไอ้เราก็เลยต้องมาหาเอาในอินเตอร์เน็ตและหนังสืออีกตามเคย เอาล่ะเรามาลองดูกันเลยว่ามันบ่งบอกถึงอาการและโรคอะไรกันบ้าง
วิธีการสังเกตถึงสุขภาพภายในร่างกายของเราหรือของคนใกล้ตัวเรานั้น ด้วยศาสตร์ใหม่จากการวิเคราะห์สภาพผิว Face Mapping กระบวนการพิสูจน์และวิเคราะห์สภาพผิวด้วยศาสตร์ตะวันออก ซึ่งเป็นหนึ่งในปรัชญาความคิดเบื้องต้นที่ว่า "ผิวหน้าสามารถบ่งบอกได้ถึงสุขภาพภายในร่างกายที่มีผลกระทบต่อผิวพรรณ" ทำให้เข้าใจได้ถึงสาเหตุการเกิดปัญหาสุขภาพผิว
ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพผิว จากศูนย์สุขภาพผิวเลียวนาร์ด เดรก ได้นำเสนอแนวทางการป้องกันโดยมีหลักในการวิเคราะห์สภาพผิวแบบ Face Mapping นั้นจะเป็นการวิเคราะห์สภาพผิวที่ละเอียดกว่าการวิเคราะห์ผิวโดยทั่วไป โดยแบ่งส่วนใบหน้า ลำคอ และแผ่นอกออกเป็น 4 โซน
สิวบอกโรค : โซนที่ 2 สิวบริเวณหว่างคิ้ว เกี่ยวกับตับ อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้) การทานอาหารรสจัดหรือทานอาหารดึกเกินไป
สิวบอกโรค : โซนที่ 4 และโซนที่ 10 ผิวบริเวณหูนี้เป็นผลพวงของไต หากรู้สึกร้อนที่หู คุณอาจต้องลดการรับประทานเนื้อสัตว์ลง
สิวบอกโรค : โซนที่ 5 และโซนที่ 9 บริเวณแก้มทั้งสองด้าน โดยแก้มส่วนบนจะเกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด ส่วนแก้มส่วนล่าง เหงือกและฟัน สาเหตุอาจเป็นเพราะสูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์มือถือไม่สะอาด
สิวบอกโรค : โซนที่ 6 และโซนที่ 8 ตำแหน่งรอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับไต และปัญหาภูมิแพ้ สาเหตุมาจากเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ อาจไม่เหมาะสม หรือใส่แว่นตาที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคือง อาจมาจากการเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร
สิวบอกโรค : โซนที่ 7 ผิวบริเวณจมูกและริมฝีปาก แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หากมีสิวบริเวณนี้อาจหมายถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ การมีประจำเดือน การรับประทานยาคุมกำเนิด
สิวบอกโรค : โซนที่ 11 และโซนที่ 13 หากผิวบริเวณนี้แตกระแหง สามารถบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาของฟันกราม หรือปัญหาเกี่ยวกับฟัน
สิวบอกโรค : โซนที่ 12 สิวเรื่อๆ บริเวณคางนี้ สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องลำไส้เล็ก ที่มีผลจากการรับประทานของเผ็ด
สิวบอกโรค : โซนที่ 14 หากคุณมีสิวบริเวณนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังเครียดสูง
นี่เป็นเพียงแค่รายละเอียดเพียงเล็กน้อยของการวิเคราะห์สภาพผิวหน้าที่ทำให้รู้ได้ถึงสุขภาพภายในร่างกาย ซึ่งจะทำให้เราทราบได้ว่าจะต้องดูแลบำรุงทั้งสุขภาพภายในและภายนอกอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่นี้เพื่อนๆก็จะมีทั้งสีหน้า แววตาและผิวพรรณที่เป็นสุขได้ และห่างไกลจากโรคกันถ้วนหน้า.....
ที่มา--ไทยโพสต์
18.10.12
ไขข้อข้องใจกินเจกินกาแฟได้หรือเปล่า
"กาแฟ" ถูกยกให้เป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของคนยุคปัจจุบันไปเสียแล้ว เกือบทุกวัย เพียงแค่จิบนิดหน่อยทานคู่กับขนมปังสักแผ่นก็รองท้องไปได้หลายชั่วโมงอยู่ แต่เอ๊ะ! ในหน้าเทศกาลกินเจช่วงนี้ คอกาแฟหลายๆคนคงกำลังตั้งคำถามว่า ถ้าเรากินเจแล้วจะดื่มกาแฟได้ไหมนะ ใจหนึ่งก็อยากกินเจสร้างบุญสร้างกุศล แต่อีกใจหนึ่งก็ตัดใจจากกาแฟไม่ขาดแน่ ๆ วันนี้เลยไปเสาะหาข้อมูลมาไขข้อข้องใจกัน เอาล่ะเรามาดูกันเลยซิว่า กินเจ กินกาแฟได้หรือเปล่าน๊าาา....
คำตอบของเรื่องนี้ก็คือ เพื่อนๆสามารถดื่มกาแฟได้ แม้เพื่อนๆจะกินเจอยู่ก็ตาม แต่!!!!...ช้าก่อน!!! กาแฟแก้วนั้นจะต้องไม่ใช่กาแฟที่ชงกันตามสูตรปกตินะเจ้าคะ เพราะกาแฟที่เพื่อนๆจะสามารถดื่มได้ จะต้องเป็นกาแฟดำ หรือโอเลี้ยงเท่านั้น เพราะกาแฟสำเร็จรูป ทั้งประเภทซอง หรือประเภทกระป๋อง รวมทั้งครีมเทียมจะมีนมผสมอยู่ด้วยนั่นเอง เพราะฉะนั้นหมดสิทธิ์เจ้าค่ะ
ส่วนเพื่อนๆหรือใครๆที่ชอบทานกาแฟสด ก็จะต้องดูดีๆด้วยเช่นกัน เพราะบางร้าน หรือบางยี่ห้อ จะนำเมล็ดกาแฟไปคั่วกับเนย เพื่อให้รสชาติหอมมัน แน่นอนว่า กาแฟแบบนี้คนกินเจไม่สามารถทานได้ แต่ถ้าเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วธรรมดา ๆ ไม่ใส่เนย ถือว่าเป็นเจเหมือนกัน สามารถทานได้ อ้อ...แต่ถ้างานนี้ใครชอบทานแบบ ลาเต้, คาปูชิโน, หรือ มอคคา งานนี้หมดสิทธิ์ ค่ะ ต้องทนเปรี้ยวปากต่อไปจนกว่าจะออกเจนะ เพราะมีนมผสมอยู่เต็ม ๆ
เอ...แล้วถ้าเกิดไม่แน่ใจว่า กาแฟที่เราจะดื่มนั้นมีนม หรือเนย อยู่ในกระบวนการผลิตหรือเปล่าล่ะ จะทำอย่างไรดี?
ขอแนะนำว่าให้เลือกทาน "กาแฟเจ" แล้วกันค่ะ โดยกาแฟเจนั้นจะใช้ "นมถั่วเหลือง" เป็นส่วนผสมแทน "นมวัว" ซึ่งตรงซองจะมีเส้นสีเหลืองคาด หรือติดสัญลักษณ์เจสีเหลืองๆ ไว้ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาซื้อยาก เพราะช่วงเทศกาลกินเจทุกปีจะมี "กาแฟเจ" ออกมาวางขายเอาใจคอกาแฟอยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูดีๆ บางยี่ห้อบอกใช้ "นมถั่วเหลือง" แต่ถ้าไม่มีเส้นสีเหลือง หรือสัญลักษณ์กินเจติดอยู่ นั่นหมายความว่า นั่นอาจจะไม่ใช่กาแฟเจก็ได้ เพราะเขาจะผสม "นมวัว" ลงไปด้วยนั่นเอง ดังนั้น ให้เลือกที่เป็นกาแฟเจจริง ๆ อย่าง Soy Latte (กาแฟใส่น้ำนมถั่วเหลืองเจ)
เพิ่มเติมอีกนิดสำหรับใครที่อยากดื่ม กาแฟเจ แบบใส่นม สูตรง่ายๆ เลยก็คือ ให้ใช้น้ำนมถั่วเหลืองเจแทนนม หรือไม่ก็หากาแฟมาชงดื่มเอง แล้วเลือกใช้ครีมเทียมที่ทำจากถั่วเหลืองซึ่งมีขายตามท้องตลาด แล้วเติมน้ำเชื่อม หรือน้ำตาลตามใจชอบ เพียงเท่านี้ก็จะได้กาแฟเจ ที่จะช่วยให้คนรักกาแฟรู้สึกกระปรี้กระเปร่าในวันทำงานได้แล้วล่ะ
credit -- kapook.com
มะระขี้นก
วันนี้เอาสาระเกี่ยวกับพืชผักมาฝากเพื่อนๆกัน เนื่องจากอยู่ในช่วงของเทศกาลกินเจ ไปตลาดได้ไปเจอแกงยอดมะระขี้นกเจ และได้ยินเด็กวัยรุ่นยืนเถียงกันเรื่องประโยชน์ของมันว่าแม่เค้าบอกว่าแม่้เค้าบอกว่ากินยอดมะระแล้วไม่แก่ก่อนวัย อีกคนก็บอกว่าแม่เค้าบอกว่าต้องกินลูกมันต่างหาก ไอ้เราคนฟังก็ชักจะสับสนตามไปด้วย เลยต้องมาเสาะหามาว่าจริงๆมันมีประโยชน์ยังไงบ้าง เอาล่ะเรามาดูกันเลยดีกว่า
ชื่ออังกฤษ
Balsam Pear, Bitter Cucumber, Leprosy Gourd, Bitter Gourd
ชื่อท้องถิ่น
ผักเหย (สงขลา), ผักไห (นครศรีธรรมราช), มะร้อยรู (ภาคกลางPeninsular), มะห่อย, มะไห่ (ภาคเหนือ), สุพะซู สะพะเด (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Momordica charantia Linn.
วงศ์
Cucurbitaceae
ลักษณะ
ลักษณะของพืชเป็นไม้เถา มีมือเกาะใบเดี่ยว รูปร่างคล้ายฝ่ามือ เรียงสลับกัน ขอบใบเว้าลึก 5-7 แฉก กว้างและยาวประมาณ 4-7 ซม. ดอกเดี่ยว ดอกแยกเพศกัน และอยู่บนต้นเดียวกัน กลีบดอกสีเหลืองรูประฆัง ผลเป็นรูปกระสวย ผิวขรุขระ ดิบสีเขียวเมื่อสุกสีส้ม ใบ ลำต้น และลูกมีรสขม
สรรพคุณสมุนไพร
ลดระดับน้ำตาลในเลือด ใช้ผลสด 50 กรัมต่อวัน หรือ นำผลมะระขี้นกมาหั่น เอาเฉพาะเนื้อ ตากแดดให้แห้ง ใช้เนื้อมะระขี้นกแห้ง 1-2 ชิ้น ชงกับน้ำร้อน 1 ถ้วย ดื่มครั้งละ 2 ถ้วย วันละ 3 เวลา หรือจะชงจำนวนมากพอแล้วใส่ในกระติกน้ำร้อน แบ่งกินได้ตลอดวันก็ได้ หรือ นำมะระขี้นก แกะเมล็ดออก กินดิบๆ หรือต้มสุก รับประทานเป็นผักหรือจิ้มน้ำพริกมื้อละ 1 ถ้วย วันละ 3 ครั้ง
ยับยั้งเชื้อ HIV ใช้เมล็ดจำนวน 10 เมล็ด นำมาปั่นหรือโขลกให้ละเอียดกับน้ำสะอาด 10-20 มิลลิลิตร กรองผ่านผ้าขาวบางให้เตรียมอย่างสะอาดและเก็บไว้ในที่เย็น ใช้สวนทวารหนักวันละ 1 ครั้ง
ช่วยเจริญอาหาร ใช้เนื้อของผลที่ยังไม่สุกไม่จำกัดจำนวน ใช้ประกอบเป็นอาหาร ผักจิ้ม ต้ม แกง
ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ ใช้ใบสดมะระขี้นก 20-30 ใบ หั่นใบชงด้วยน้ำร้อนเติมเกลือ เล็กน้อย ช่วยกลบรสขม ดื่มแต่น้ำ ใช้ได้ดีสำหรับถ่ายพยาธิเข็มหมุด นอกจากนี้ยังใช้เมล็ด 2-3 เมล็ด รับประทานขับพยาธิตัวกลม ทำให้อาเจียน ใช้เถาสด 1/3 กำมือ หรือ 6-20 กรัม เติมน้ำพอท่วมต้มให้เดือด 5-10 นาที ดื่มแต่น้ำ
รักษาชันนะตุและศีรษะเป็นเม็ดผื่นคัน ใช้ผลสดที่ยังไม่สุกหั่นเนื้อมะระแล้วตำคั้นเอาแต่น้ำ เติมดินสอพองลงในพอสมควร ใช้ทาบริเวณที่เป็นชันนะตุ
ยาแก้ไข้ ใช้ผลมะระต้มน้ำแล้วดื่ม อาการตัวร้อนจะหายไป แก้ไข้ที่เกิดจากกระทบความร้อน ใช้ผลสด 1 ผล ควักไส้ในออกใส่ใบชาเข้าไปแล้วประกบกันนำไปตากให้แห้งในที่ร่ม รับประทานครั้งละ 6-10 กรัม โดยต้มน้ำดื่มหรือชงน้ำดื่มต่างชา ก็ได้
แก้ร้อนในกระหายน้ำ ใช้ผลสด 1 ผล ขูดไส้ในออก หั่น ฝอย ต้มน้ำดื่ม
แก้บิด ใช้น้ำคั้นจากผลสด 1 แก้ว ผสมน้ำดื่ม
แก้บิดเฉียบพลันใช้ดอกสด 20 ดอก ตำคั้นเอาน้ำมาผสมน้ำผึ้งพอสมควรดื่ม
แก้บิดปวดท้อง ถ่ายเป็นเมือกๆ ใช้รากสด 60 กรัม น้ำตาลกรวด 60 กรัม ต้มน้ำดื่ม ถ่ายเป็นเลือด ใช้รากสด 120 กรัม ต้มน้ำดื่ม
แก้บิดถ่าย เป็นมูกหรือเลือดใช้เถาสด 1 กำมือ แก้บิดมูกใส่เหล้าต้มดื่ม แก้บิดเลือดให้ต้มน้ำดื่ม
แก้แผลบวม ใช้ผลสดตำพอก แผลสุนัขกัด ใช้ใบสดตำพอก แก้ปวดฝี ใช้ใบแห้ง บดเป็นผงชงเหล้าอื่น
แก้ฝีบวมอักเสบใช้ใบสดตำคั้นเอาน้ำทาบริเวณที่เป็นหรือใช้รากแห้งบดเป็นผงผสมน้ำพอก แก้ปวดฟัน ใช้รากสดตำพอก แก้คัน แก้หิด และโรคผิวหนังต่างๆ ใช้ผลแห้งบดเป็นผง ใช้โรยแผลแก้คันหรือทำเป็นขี้ผึ้ง ใช้ทาแก้หิดและโรคผิวหนังต่างๆ
ข้อห้ามใช้/ข้อควรระวัง
ไม่ควรใช้ในสตรีตั้งครรภ์
การใช้ร่วมกับยาลดน้ำตาลในเลือด (oral hypoglycemic agents ) อื่น หรือการฉีด insulin อาจทำให้เสริมฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้
อาการอันไม่พึงประสงค์
อาจทำให้ระบายเนื่องจากมะระขี้นกมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ
11.10.12
สวยด้วยน้ำเต้าหู้
น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
ผู้ใหญ่มักบอกให้ดื่มน้ำเต้าหู้กันเยอะๆ เพื่อที่จะได้มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใส อ่อนเยาว์เสมอจะจริงหรือไม่ เราลองมาดูด้วยกันเลยดีกว่า
ในน้ำเต้าหู้มีอะไร
น้ำเต้าหู้นั้นหรือนมถั่วเหลืองนั้นเป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมไปถึงสารอาหารที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ ,บี ,บี 1 ,บี 2 ,บี 6 ,บี 12 ,ไนอาซิน ,เลซิทิน ซึ่งตัวหลังสุดช่วยในการบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ นอกจากนี้สารอาหารที่อยู่ในนมถั่วเหลืองยังช่วยลดไขมันและคอเลสเทอรอลในร่างกายเราได้อีกด้วย
น้ำเต้าหู้กับสุขภาพ
นมถั่วเหลืองให้พลังงานได้มากพอๆกับนมวัว แม้ปริมาณโปรตีน วิตามินและเกลือแร่อื่น ๆ อาจได้ไม่เท่ากับนมวัว แต่ข้อดีที่สำคัญคือ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เพราะ ไขมันในนมถั่วเหลือง เป็นไขมันไม่อิ่มตัวมีมากถึง 63% ไขมันอิ่มตัว 15 % ไขมันไม่อิ่มตัวชนิดเดี่ยวอีก 24 % และยังมี linoleic acid กรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย นอกเหนือจากคุณค่าในแง่ของพลังงานแล้ว ในนมถั่วเหลืองยังมีสารอาหารอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอี ที่มีในปริมาณที่สูง วิตามินอี มีส่วนสำคัญที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยดูแลเนื้อเยื่อร่างกายให้เป็นปกติ ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง และยังช่วยชะลอความแก่อีกด้วย ...เพราะฉะนั้น ถ้าใครทานนมถั่วเหลืองมาก ๆ ก็มีสิทธิแก่ช้า แถมยังได้ผิวพรรณที่สดใสอยู่กับเราไปนานๆด้วย
ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้ ไม่ได้มีเพียงแค่ทำให้ผิวพรรณ สดใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ หรือทำให้แก่ช้าเท่านั้น แต่ด้วยคุณสมบัติที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แฝงมากับวิตามินในนมถั่วเหลือง ยังช่วยป้องการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจล้มเหลว ท้องผูก สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้และริดสีดวงด้วย
ข้อจำกัดของน้ำเต้าหู้
ข้อจำกัดนี้ไม่ได้เป็นการกำจัดปริมาณการทาน แต่เป็นข้อจำกัดที่มีอยู่ในตัวเอง ธรรมชาติของสารอาหารที่มาจากพืชย่อมมีปริมาณที่น้อย แต่เราสามารถทานให้มากและทานให้หลากหลายชนิดได้ นมถั่วเหลืองก็เช่นกัน เนื่องจากมีปริมาณแคลเซียมน้อย จึงจำเป็นต้องรับประทานควบคู่ไปกับอาหารชนิดอื่นๆด้วย เช่น ปลาทอดกรอบที่ทานได้ทั้งกระดูก ผักใบเขียวอื่น ๆ อย่างคะน้า ขึ้นฉ่าย กวางตุ้ง นอกจากนี้เราสามารถทานน้ำเต้าหู้ร่วมกับธัญพืชอื่นๆ อย่างลูกเดือย สาคู หรือถั่วแดง จะทำให้ได้รับสารอาหารที่เพิ่มมากขึ้น น้ำเต้าหู้กับผู้หญิง
น้ำเต้าหู้ดีกับสุขภาพโดยเฉพาะกับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทอง หากมีการรับประทานน้ำเต้าหู้อยู่เสมอจะช่วยลดอาการต่างๆ ของหญิงวัยหมดประจำเดือนไม่ว่าจะเป็นร้อนวูบวาบ ช่องคลอดแห้ง ไขมันสูง อารมณ์ไม่ปกติ ในน้ำเต้าหู้จะมีสารเคมีสำคัญตัวหนึ่ง คือ ไอโซฟลาโวน ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ประโยชน์ของสารตัวนี้สามารถลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านม โรคกระดูกพรุน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ส่วนคุณผู้หญิงที่ไม่อยู่ในช่วงวัยทองก็ได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน เพราะจะช่วยปรับฮอร์โมนของผู้หญิงให้สมดุลได้เช่นเดียวกับยาคุมกำเนิด เห็นคุณประโยชน์ของน้ำเต้าหู้ที่มีมากขนาดนี้ ไม่หามาทานคงไม่ได้แล้วหล่ะ
8.10.12
ทายนิสัยจากกลิ่นน้ำหอมที่คุณชอบ
คุณเคยรู้กันไหมว่าน้ำหอมที่คุณชื่นชอบ บอกอะไรเกี่ยวกับตัวคุณได้บ้าง วันนี้มีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับคำทำนายเรื่องของกลิ่นน้ำหอมโปรดของแต่ละคนมาฝากกันค่ะ จะแม่นหรือเปล่าลองมาอ่านกันดูเลยค่ะ
ข้อด้อยของคนชอบน้ำหอมแนวนี้ เป็นคนที่ไม่ค่อยน่าค้นหา เพราะเดาออกง่าย เป็นคนเรียบง่าย ไม่กระตือรือร้น คนที่ชอบน้ำหอมแนวนี้มักจะตกหลุกรักได้ง่าย ไม่เป็นตัวของตัวเอง ต้องพึ่งพาคนอื่นเสมอ
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบน้ำหอมแนวกลิ่นผลไม้ หรือกลิ่นฟรุ๊ตตี้ น้ำหอมแนวนี้จะเป็นน้ำหอมจากผลไม้ตระกูลส้ม ที่ออกรสเปรี้ยวๆ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบน้ำหอมแนวนี้ แสดงว่า คุณเป็นคนรักสนุก ตลก ชอบสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง มีอารมณ์ขันเหลือเฟือ คนที่ชอบน้ำหอมแนวนี้มักจะเป็นคนรักอิสระ ปราดเปรียด กระตือรือร้น ไม่ค่อยอยู่นิ่ง พร้อมจะหาประสบการณ์ใหม่ๆเสมอ ที่สำคัญเป็นคนฉลาดและพึงพาตัวเองได้ดีทีเดียว
ข้อด้อยคนชอบน้ำหอมแนวนี้ เนื่องจากคนที่ชอบน้ำหอมแนวนี้จะเป็นคนตลกๆ จึงทำให้ดูขี้เล่น ไม่จริงจัง เหมือนคนเหลาะแหละ ออกแนว กะล่อนเล็กๆ
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบน้ำหอมแนวกลิ่นเขียวสดชื่น แนวมวลหมู่ไม้นานาพรรณ น้ำหอมประเภทนี้มักเป็นกลิ่นพวกใบหญ้า กลิ่นสน กลิ่นป่า กลิ่นธรรมชาติ สำหรับผู้ที่ชอบน้ำหอมแนวนี้ บอกได้เลยว่าคุณเป็นคนที่ สุขุม ใจเย็น ทำอะไรตามกรอบเสมอ ไม่ฟุ้งเฟ้อ เป็นคนเจ้าระเบียบ คาดหวังสูง อย่ากได้สิ่งที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้คนที่ชอบกลิ่นน้ำหอมแนวนี้ ยังเป็นคนเจ้าอุดมการณ์ บุคลิกดี สง่าผ่าเผย จริงใจ มีความซื่อสัตย์สูง เป็นที่พึ่งของตัวเองและคนอื่นได้ดี
ข้อด้อยคนชอบน้ำหอมแนวนี้ เนื่องจากบุคลิกนิ่งๆ ทำให้ดูเย็นชา ไม่กล้าเสียง หรือลองสิ่งใหม่ๆ นอกจากนี้ยังอาจจะดื้อรั้นจนไม่ฟังใคร ทำให้ดูน่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบน้ำหอมแนวเครื่องเทศ น้ำหอมแนวนี้เป็นน้ำหอมแนวกลิ่นน้ำหอมตะวันออก ผลิตได้จากเครื่องเทศต่างๆ ให้กลิ่นที่หอมเย็น ดูเคร่งขรึม ถ้าคุณชอบน้ำหอมแนวนี้ล่ะก็ คุณเป็นคนชอบวางแผน เข้าใจยาก เข้าถึงยาก เพราะชอบทำตัวลึกลับซับซ้อน เป็นนักคิด ชอบแอบซ่อนความรู้สึกไว้ คนที่ชอบน้ำหอมแนวนี้จะไม่ชอบให้ใครมาบงการ มีความเป็นตัวเองสูง เชื่อมันในตัวเอง บุคลิกค่อนข้างแข็ง มั่นคง อดทน ไม่หวั่นไหวง่าย
ข้อด้อยคนชอบน้ำหอมแนวนี้ เดาใจยาก เข้าถึงได้ยาก เนื่องจากชอบปกปิดความรู้สึก ไม่มีความเป็นกันเอง บางครั้งใจแข็งมากเกินพอดี
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบน้ำหอมแนวกลิ่นมอส น้ำหอมแนวพืชคลุมดิน เป็นน้ำหอมแนวคลาสสิค กลิ่นเยือกเย็น คนที่ชอบน้ำหอมประเภทนี้ มักจะเป็นคนโรแมนติก เร้าใจ ชวนให้หลงไหล ใช้ชีวิตค่อนข้างหวือหวา แต่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด คนที่ชอบน้ำหอมแนวนี้จะเป็นคนช่างต่อรอง ไม่ยอมเสียเปรียบใคร เป็นคนมีสเน่ห์ และรู้จักวิธีการบริหารสเน่ห์ที่มี เป็นคนมีความตั้งใจสูง มุ่งมั่น หวังอะไรไว้มักจะทำให้ได้อย่างหวังเสมอ
ข้อด้อยคนชอบน้ำหอมแนวนี้ เป็นพวกบ้าอำนาจ หลงตัวเอง คนที่ชอบน้ำหอมแนวนี้มักจะเป็นคนไม่รอบคอบ เป็นคนหลายบุคลิก เอาใจยากและเข้าใจยากด้วย
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบน้ำหอมแนวกลิ่นสังเคราะห์ เป็นน้ำหอมที่ได้จากการสังเคราะห์จากสิ่งอื่นๆที่ไม่ใช่ดอกไม้ สมุนไพร หรือผลิตจากธรรมชาติ คนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นแบบนี้ มักจะเป็นพวกรักอิสระ ค่อนข้างจะศิลปิน ไม่ชอบกฎเกณฑ์ มีความกระตือรือร้น ใจกล้าบ้าบิ่น มึวามคิดสร้างสรรค์ คนที่ชอบน้ำหอมแบบนี้มักจะชอบท่องเที่ยว ชอบเดินทาง มีสเน่ห์น่าหลงไหล มีความทะเยอทะยาน
ข้อด้อยคนชอบน้ำหอมแนวนี้ ดูเหลาะแหละ ไม่รับผิดชอบ จับจด ไม่จริงจัง มั่นใจในตัวเองมากเกินไป ชอบดูถูกคนอื่น เพราะคนที่ชอบน้ำหอมแนวนี้มักจะมั่นใจสูงจนมองข้ามหัวคนอื่นอยู่บ่อยๆ
credit -- FW Mail
5.10.12
ไขความหมาย 'สัญญาณไฟสิบล้อ' ไม่ใช่ 'รหัสลับ' แต่เป็น 'รหัสรักและหวังดี'
ภาพลักษณ์ของรถบรรทุกขนาดใหญ่มักติดอยู่กับ 'ยักษ์มาร' อย่างแยกกันไม่ออก ด้วยขนาดใหญ่โตมโหฬารเสียงกระหึ่มก้องสะท้านทั่วถนน ซ้ำร้ายภาพเหล่านั้นยังติดสอยห้อยตามคนขับสิบล้อเหมือนผีจู-ออน ขี่คอตามหลอกหลอนให้ใครที่พบเห็นตัดสินไปแล้วว่า เขาเหล่านั้นคือคนใจไม้ไส้ระกำไปเสียหมด....จบกัน แต่หากใครได้รู้จักมักคุ้นกับบรรดาสิงห์สิบล้ออย่างดิบดี ก็จะพบว่านอกจากส่วนใหญ่ที่ต้องสู้ชีวิตหาเลี้ยงครอบครัวแล้ว เขายังชอบเผื่อแผ่สิ่งดีๆ ให้ผู้ร่วมทางบนท้องถนนเส้นเดียวกันอีกด้วย ไปทำความรู้จักกับนิสัยน่าร๊ากกกอ่ะ...ของยักษ์ใหญ่เจ้าถนนกันหน่อยปะไร อาจทำให้ใครหลายคนหลงรักเจ้ายักษ์ตัวนี้ขึ้นมาอย่างเฉียบพลันก็เป็นได้ ความน่ารักที่ว่าก็คือ...การส่งสัญญาณด้วยไฟลักษณะต่างๆ เพื่อบอกถึงเหตุการณ์ข้างหน้า เพื่อให้เราเตรียมพร้อม...เป็นไงล่ะ แค่ฟังก็น่าร๊ากกกกซะ
เมื่อไหร่ที่สังเกตเห็นรถบรรทุกคันหน้าสัญญาณเป็นลักษณะไฟเลี้ยวซ้ายที-ขวาที สลับกัน เป็นสัญญาณบอกว่าให้เราระวัง เพราะเขากำลังจะเบรก ด้านหน้าอาจมีด่านหรือเกิดอุบัติเหตุอยู่ เพราะฉะนั้นให้เราวิ่งด้วยความเร็วต่ำ และห้ามแซงขึ้นไปนะ
เชิญเลยจ้า
หากเราขับตามแล้วรู้สึกว่ารถบรรทุกคันหน้าวิ่งช้า เลยตัดสินใจจะแซง แล้วสังเกตเห็นว่าอยู่ดีๆ รถบรรทุกดันเปิดไฟเลี้ยวซ้ายทั้งๆ ที่ไม่มีซอกซอยหรือทีท่าจะเลี้ยวแต่อย่างใด นั่นแสดงว่าเขาบอกเราว่า ข้างหน้าปลอดภัยจ้า เชิญแซงออกขวาได้ตามอัธยาศัยเลยตัวเอง
ไม่ได้นะ ห้ามไป
แต่ถ้าเป็นเหตุการณ์เหมือนข้อที่แล้ว ที่เราคิดกำลังจะแซงรถบรรทุกเจ้ากรรมคันเดิม แล้วสายตาดันไปกระแทกกับไฟเลี้ยวขวาที่สว่างขึ้นมา นั่นแสดงว่าเขาจะบอกเราเป็นนัยๆ ว่าห้ามแซงนะ อาจมีโค้ง หรือมีรถสวนมา ถ้าแซงล่ะก็ไม่พ้นแน่ๆ ให้รอก่อน แล้วโดยส่วนมากเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย คนขับรถเขาก็จะกลับมาเปิดไฟเลี้ยวซ้ายอีกที ส่งสัญญาณให้เราแซงได้อย่างสะดวกโยธิน
ของทางหน่อย จะตรงไป
เมื่ออยู่ตรงสี่แยก แล้วสังเกตเห็นรถบรรทุกเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน นั่นแสดงว่าเขาจะบอกเราว่า เขากำลังจะตรงไปไม่เลี้ยวนะ หากคันหลังจะตรงก็ตามมาได้เลย ถ้าจะเลี้ยวเชิญตามสบาย
ช่วยส่องไฟ จะได้เห็นๆ
หากเวลากลางคืนบนทางอันมืดมิด เราขับตีขวาแซงขึ้นไป จะสังเกตว่ารถบรรทุกมักจะยกไฟสูงขึ้น สาเหตุก็เพื่อส่องทางข้างหน้าให้เราเห็นชัดเจน และถ้าไฟดับลงเมื่อไหร่ก็แสดงว่าให้เรากลับเข้าเลนได้ แสดงว่าแซงพ้นแล้ว ถ้าเราเจอคนขับน่ารักแบบนี้ เมื่อแซงพ้นแล้วก็บีบแตรสั้นๆ ขอบคุณสักหน่อย เดี๋ยวเขาก็จะบีบแตรตอบกลับมา...ใช้ถนนแบบนี้ น่ารักกันจริงเชียว
ข้างหน้ามีเหตุ
ในกรณีที่เราวิ่งสวนทางกับรถบรรทุก เขาก็มีสัญญาณไฟเช่นกัน ถ้าหากเห็นรถที่สวนมาดับไฟหน้าและเปิดขึ้น แสดงว่าเขาอยากบอกว่าทางข้างหน้ามีด่านหรือไม่ก็อุบัติเหตุรุนแรงให้เตรียมรับมือไว้เสียแต่เนิ่นๆ
เช็กเพื่อนร่วมทาง
หากเห็นรถบรรทุกวิ่งสวนมา แล้วกะพริบไฟสูง 1 ครั้ง มี 2 กรณีคือ ต้องการตรวจสอบว่าเราง่วงนอนหรือเปล่า สติยังครบถ้วนใช่ไหม หรือเป็นการถามว่าทางที่เราผ่านมามีด่านหรืออุบัติเหตุอะไรหรือเปล่า ถ้าทุกอย่างปกติดี ก็กะพริบไฟหน้าตอบเขาไป 1 ครั้งก็แล้วกัน
ข้างหน้ามีด่าน
หากเห็นรถบรรทุกคันที่สวนมา อยู่ดีๆ กะพริบไฟหน้าพร้อมเปิดไฟเลี้ยวมาทางฝั่งเรา นั่นแสดงว่าข้างหน้ามีด่าน ให้เตรียมตัวและระมัดระวัง เตรียมชะลอรถได้แล้ว หากยังวิ่งด้วยความเร็วอาจเกิดอันตรายได้
ขอทางหน่อย
หากเห็นรถบรรทุกวิ่งกันมาเป็นแถวๆ แล้วจู่ๆ มีคันในแถวแฉลบหัวรถออกมาพร้อมกะพริบสูงไฟ 1 ครั้ง นั่นแสดงว่าเขากำลังขอทางและบอกกลายๆ ว่ากำลังจะเร่งเครื่องแซง ขอใช้ทางวิ่งในเลนของเราแล้วนะ ถ้าเราพร้อมจะเปิดทางก็กะพริบไฟตอบไป 1 ที
เมื่อหายสงสัยเสียทีว่าทำไมขับรถไปตามถนนหนทาง มักเห็นรถบรรทุกเปิดไฟเหมือนส่งซิกอะไรบางอย่าง แต่แท้จริงแล้วมันคือน้ำใจที่ 'ยักษ์มาร' ตามความรู้สึกของใครบางคน พึงมีให้กับเพื่อนร่วมทาง เพราะฉะนั้นลองเปลี่ยนทัศนคติตรองดูสักนิดว่าเขาเหล่านั้นยังเป็นแบบที่เราคิดอยู่จริงหรือเปล่า??
credit -- ไทยรัฐออนไลน์
2.10.12
ความจริง 10 อย่างที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับการจูบมันมีอะไรบ้าง
1. ในทุกอณูลิ้นจะอุดมไปด้วยเส้นประสาท จุดไฟแห่งความคันและความเสียว ผู้เชี่ยวชาญอ้างว่าลิ้นของคุณเวลาเกิดการแลกลัวพัวพันกันระหว่างลิ้นนั้นทำให้คุณมีความรู้สึกอยากมากขึ้นเหมือนกับว่า การจูบกระตุ้นให้เกิดการมีเซ็กซ์ได้ 100 เท่ามากกว่าการลูบไล้ด้วยมือซะอีก จึงไม่แปลกที่เวลาก่อน ระหว่างหรือหลังการมีเซ็กซ์ จูบจึงมีความสำคัญได้ตลอดเพราะจูบทั้งช่วยกระตุ้นทางเพศและทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจ
2. ผู้ชายกว่า 40% เผยว่า จูบที่ยาวๆ ดูดปากด้วยความแรงและนานจะผลักดันให้ผู้ชายเกิดความต้องการการมีเซ็กซ์ขึ้นมาทันทีส่วนอีก 30% บอกว่าเวลาที่จูบ ถ้าผู้หญิงล้วงไปจับลูบคลำที่ลูกบอลและท่อนเอ็นของเขาการมีเซ็กซ์จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
9. 54%ของผู้หญิงระหว่าง 18-24 ปี บอกว่าเขาจูบกับเพื่อนผู้หญิงด้วยกันเป็นประจำส่วนผู้หญิงอายุ 25-34 ปี มีแค่ 43%
Subscribe to:
Posts (Atom)