16.3.16

สูตรทำขนมครกชาววังสูตรโบราณ


         วันนี้ไปเจอสูตรทำขนมครกดูแล้วน่ากินมากกกก ขนมเมนูของหวานที่เป็นที่นิยมมาตั้งหลายยุคหลายสมัยกันนั่นก็คือ ขนมครก นั่นเอง ยิ่งถ้ากินกับกาเเฟตอนเช้าด้วยอร่อยนะในความชอบของเรา
มาดูสัดส่วนของแป้งกันเลย โดยส่วนผสมนั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของแป้งขนมครก และ ส่วนของหน้าขนมครก

ส่วนผสมการทำแป้งขนมครก

แป้งข้าวเจ้า ใช้ประมาณ 2 1/2 ถ้วยตวง
ข้าวหอมมะลิหุงสุกประมาณ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทรายประมาณ 1/4 ถ้วยตวง
น้ำปูนใสประมาณ 1/2 ถ้วย
หัวกะทิประมาณ 1 1/2 ถ้วย
หางกะทิประมาณ 1 1/2 ถ้วย
เกลือเล็กน้อยประมาณ 2 ช้อนชา

ส่วนผสมการทำหน้าขนมครก

หัวกะทิประมาณ 1 ถ้วย
หางกะทิประมาณ 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายประมาณ 1/4 ถ้วย
เกลือประมาณ 2 ช้อนชา

วิธีทำแป้งขนมครก

ขั้นตอนแรกเราจะมาเริ่มที่การทำตัวแป้งกันก่อน  โดยเราจะใช้เครื่องปั่นในการผสมแป้งเข้าด้วยกัน  โดย ให้เรานำส่วนผสมส่วนที่ 1 การทำแป้งขนมครก เทรวมลงในเครื่องปั่นและปั่นให้เข้ากัน (ที่เราต้องใช้เครื่องปั่นนั้นก็เพื่อให้ตัวข้าวสวยนั้นละเอียดและเข้ากันกับแป้งนั่งเอง)
เมื่อปั่นเข้ากันได้ที่แล้วให้ตั้งพักไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้แป้งเข้ากันได้ดีและเซ็ตตัว

      *** การทำน้ำปูนใส ให้เราใช้ปูนแดงที่ใช้สำหรับกินหมากลงไปละลายกับน้ำ และคนให้ละลาย ทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้นจะตกตะกอน ให้ช้อนเอาแต่น้ำใสๆ ที่อยู่ด้านบนมาใช้ในการผสมแป้ง

วิธีทำหน้าขนมครก

ขั้นตอนการทำ ให้นำส่วนผสมต่างๆ ในส่วนที่ 2 คือ หัวกะทิ หางกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ เทลงมาผสมและคนให้เข้ากัน   สำหรับส่วนผสมที่เหลือสำหรับโรยหน้าให้เราโรยไปเมื่อเราหยอดหน้าขนมครกลงไปแล้ว  สำหรับการหยอดขนมครกนั้น เราสามารถประยุกต์ใช้กาน้ำในการหยอดแป้งและหยอดหน้าได้อย่างง่ายดาย แต่เคล็ดลับมีอยู่ว่า ให้คนเนื้อแป้งให้เข้ากันเสมอ อย่าวางให้ตกตะกอน  และเมื่อหยอดแป้งแล้ว ให้รอสักครู่ ปิดฝาไว้ประมาณ 3-5 นาที และเปิดดู เมื่อเห็นว่าแป้งเริ่มร่อนแล้วให้เทหน้าขนมลงไป ทิ้งไว้ไม่เกิน 2 นาที ให้โรยหน้าลงไปและปิดฝาอีกครั้ง จึงจะแคะออกจากเตาได้เลย

*** หน้าขนมที่โรยลงไป จะมีระยะเวลาสุกไม่เท่ากัน โดยทั่วไปแล้วจะทำให้หน้าที่โรยลงไปสุกเสียก่อน เช่น ข้าวโพดก็จะเป็นข้าวโพดสุก หรือฟักทอง ก็จะเป็นฟักทองที่สุกอยู่แล้ว จะมีเพียงไม่กี่หน้าที่สามารถโรยได้เลย เช่น ผักชี  ต้นหอม เป็นต้น

cr. blogspot.com/2015/11/blog-post.html