สาระน่ารู้! ศ.นพ.เสนอ อินทรสุขศรี ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าการกะพริบตาเป็นวิธีการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่ตา ซึ่งเป็นการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายเวลากะพริบตาน้ำตาจะได้เคลือบและแผ่ไปได้ทั่วผิวลูกตาทำให้ผิวตาชุ่มชื้นได้ตลอดเวลาตาจะได้ไม่แห้งและไม่แสบตาเราจึงต้องกะพริบตาอยู่ตลอดเวลา โดยเฉลี่ยคนเรากะพริบตาทุกๆ๒-๓ วินาที กว่าจะกะพริบตาครั้งหนึ่งก็ใช้เวลานาน กว่าปรกติ ตามสถิติมีผู้สังเกตว่าเวลาอ่าน หนังสือ ผู้หญิงจะใช้เวลา ๕ วินาที จึงจะกะพริบตาครั้งหนึ่ง ส่วนผู้ชายใช้เวลา ๑๐-๑๒ วินาที จึงจะกะพริบตาครั้งหนึ่ง จะกะพริบตาครั้งหนึ่ง ไมาส่ามารถอธิบายได้ ผู้ทำสถิติตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ชายอาจทนเพ่งอ่านหนังสือได้นานกว่าผู้หญิง อย่างไรก็ตามคนเราจะต้องกะพริบตาตลอดเวลาเสมอถ้าจะฝืนไม่กะพริบตาเลยเพียงนาน๑๐-๑๒วินาทีก็จะแสบตาเนื่องจากน้ำตาระเหยแห้งไปและด้านหน้าลูกตาแห้งหรือชุ่มชื้นไม่ ทั่วกัน ทั่วกัน
มีบางคนกะพริบตาถี่ๆเมื่อเกิดอารมณ์ผิดปรกติบางอย่างเช่น หวาดระแวง ละอาย ขวยเขิน มีความผิดอยู่ในใจ ตื่นเต้น โกรธ ฯลฯ บางคนกะพริบตาถี่ๆ จนเปนนิสัยก็มี ผลการวิจัยมนุษย์เราจะต้องกระพริบตาถึง 250ล้านครั้งทีเดียวเพราะเราจะกระพริบตาทุกๆ6วินาทีเราต้องทำใหกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวประมาณ 10,000 ครั้งต่อวัน
ถ้าเปรียบกับการทำงานของกล้ามเนื้อขาแล้วจะเท่ากับวิ่งระยะทาง 80 กิโลเมตรต่อวัน แถมยังพบว่าผู้หญิงจะกระพริบตามากกว่าผู้ชาย 2 เท่า
แต่แพทย์แนะนำว่าเราควรจะกะพริบตาให้ได้ 12 ครั้งต่อ 1 นาที
“ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม //สำนักพิมพ์สารคดี”
Credit-สนุกดอทคอม
posted from Bloggeroid