ช่วง นี้พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื่อแดง ออกมาปลูกผีปฏิวัติ-รัฐประหารอีกครั้ง ทั้งๆ ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ครองเสียงข้างมากในสภา ยึดทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติได้แบบเบ็ดเสร็จ
แต่หากมองให้ลึกลงไปแล้ว คงไม่มีอำนาจนอกระบบเข้ามาโค่นรัฐบาลได้ นอกเสียจากรัฐบาลจะลำลายตัวเอง ซึ่งขณะนี้มีสัญญาญบ่งบอกหลายตัวถึงจุดเสื่อมของรัฐบาล
ยิ่งรัฐบาลใช้อำนาจในการบริหารประเทศมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการทำลายตัวเอง มากขึ้นเท่านั้น เพราะการใช้อำนาจพร่ำเพรื่อจะกลายเป็นดาบสองคม กลับมาเล่นงานรัฐบาลเอง
เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วในอดีตรัฐบาล ทักษิณ ที่นำความความเสื่อมมาให้รัฐบาลอย่างรวดเร็ว วันนี้ ดูเหมือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังเดินตามรอยพี่ชาย ด้วยการอ้างเสียงของประชาชน 15 ล้านเสียงทั่วประเทศ
นอกจากใช้อำนาจในการโยกย้ายแต่งตั้งแล้ว ยังใช้อำนาจของกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการออกมาเคลื่อนไหวการโยกย้ายนายหาร และเตรียมเสนอแก้ไข พรบ.จัดระเบียบทหาร เพื่อให้รัฐมนตรีใช้อำนาจเข้าไปล้วงลูกการโยกย้ายได้
ขณะเดียวกันเริ่มหนีการถูกตรวจสอบกรณี นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ไม่มาตอบข้อซักถามของวุฒิสภา ในการขอพระราชอภัยโทษให้กับ ทักษิณ โดยอาศัยมติครม.และอ้างความชอบตามรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นไม้พิษ
เหนือสิ่งอื่นใด ความเสื่อมยังมาจากตัวของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ในการสร้างความน่าเชื่อถือ และการสร้าง ภาวะผู้นำ ของประเทศ แม้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ
แต่การตอบคำถามแบบปล่อยไก่หลายครั้ง ก็จะส่งผลเสื่อมเร็วขึ้น และเป็นการตอกย้ำให้เห็นชัดว่า เธอ เป็นแค่นายกฯนอมินี
เพราะนับตั้งแต่นายกฯยิ่งลักษณ์ เข้ามาบริหารประเทศ ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะการปล่อยไก่ตอบคำถามผิดหลังประชุม ครม.ถึงโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ จนหน้าแตกและทำให้ทีมโฆษกต้องออกมาแก้ข่าว ขณะที่กองทัพเรือ ถึงกับดีใจเก้อ
ก่อนหน้านี้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ยังให้ความเห็นที่อาจกระทบต่ออธิบปไตยของชาติ หลังจากไม่ยืนยันพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของไทย จนต้องออกมาแก้ข่าวผ่านหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว
ล่าสุดการจัดรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์คุยกับประชาชน ครั้งแรก นายกฯยังปล่อยไก่ เชิญชวนให้ประชาชนปลูกหญ้าแพรก เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ทั้งที่ความจริงแล้วต้องปลูกหญ้าแฝก เพราะเป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ ที่คนทั่วไปรู้จักกันทั้งประเทศ
ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศไหน เมื่อพูดผิดบ่อยครั้งก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในที่สุด และเป็นการตอกย้ำว่าเธอ ไม่ใช่นนายกฯตัวจริง
ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเพราะนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เตรียมตัวเป็นนายกฯ และไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อน การเดินสายหาเสียงเพียง 49 วัน และก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ผู้นำของประเทศ โดยการผลักดันของพี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร
อำนาจการบริหารและการตัดสินใจ จึงไม่ได้มาจากตัว ยิ่งลักษณ์ เอง แต่มาจากทีมกุนซือที่อยู่เบื้องหลัง ทั้งหมดจึงเป็นบทสรุปของความเสื่อมที่กำลังคืบคลานเข้ามา.
Cradit---นายตะเกียง/oknation.net