วันนี้เอาเรื่องเกี่ยวกับการเจ็บป่วยมาฝาก เนื่องด้วยวันนี้ได้เดินไปซื้อของที่ห้างแัถวบ้าน ได้เห็นต่างชาติคนหนึ่งกำลังชักอยู่ที่พื้น มีเเฟนเป็นคนไทยกำลังพยามช่วยเหลืออาการอยู่ ดูจากอาการแล้วก็กลัวๆเหมือน และดูแล้วผู้คนส่วนมากก็จะเป็นโรคนี้กันซะส่วนมาก แต่อย่างไรใครเป็นหรือไม่เป็น แต่ให้เราไปเรียนศึกษาไว้ก็ดีไม่เสียหลาย เอาหล่ะเรามาเริ่มดูกันว่ามีอะไรบ้าง สำหรับโรคลมชัก ที่คนส่วนใหญ่อาจเข้าใจว่าเกิดจากเครียด แท้ที่จริงแล้ว เกิดจากความผิดปกติของกระแสไฟฟ้า ซึ่งมีสาเหตุหลายอย่าง อาทิ สมองพิการแต่กำเนิด พันธุกรรม พยาธิในสมอง เส้นเลือดสมองผิดปกติ สมองถูกกระทบกระเทือน เนื้องอกในสมอง การได้รับสารพิษสะสม แต่ผู้ป่วยโรคลมชักกว่าร้อยละ 70 ไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้
ทั้งนี้การชักเพียงแค่ครั้งเดียว ยังไม่เข้าข่ายป่วยลมชัก แต่จะต้องมีอาการมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป มักเกิดขึ้นหลังจากระบบไฟฟ้าระหว่างเซลล์สมองที่ผิดปกติไปรบกวนการทำงานสมอง ส่วนอื่น อาการชักจึงเกิดขึ้น ซึ่งแพทย์สามารถตรวจหาความผิดปกติได้ด้วยการสแกนสมองและตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง
ผู้ป่วยโรคลมชัก จะมี 2 แบบ คือ การชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัว เพราะกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติเกิดขึ้นทุกส่วนของสมอง ทำให้ชักไปทั้งตัว อาการมักเริ่มจากหมดสติ ล้ม ตาเหลือก ส่งเสียงดังลั่น กัดฟัน และหยุดหายใจชั่วคราว แล้วจึงชักกระตุกไปทั้งตัว โดยเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่นาที หลังจากหยุดชัก ผู้ป่วยจะรู้สึกเพลีย กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บ และปวดศีรษะ
อีกแบบ ความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นบางส่วน ผู้ป่วยจึงชักบางส่วน เช่น ใบหน้า แขน ขา หรืออาจไม่ปรากฎอาการชักกระตุก แต่จะดูเหมือนเหม่อลอย หรือหมดสติไปชั่วคราว และหลังจากชักไปแล้ว มักจะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ อย่างไรก็ตาม โรคลมชักไม่ทำให้สมองเสียหาย แต่สร้างปัญหาด้านพฤติกรรมและอารมณ์ โดยรักษาได้หลายวิธี และรักษาให้หายได้ ทั้งด้วยยา หรือการผ่าตัด สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษานั้น ร้อยละ 80 มีผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ
ที่สำคัญ หากพบผู้ป่วยโรคลมชักกำลังมีอาการชักกระตุก วิธีช่วยเหลือที่เหมาะสมที่สุด ไม่ควรสอดช้อนหรือของแข็งเข้าไปในปากของผู้ป่วย เพราะเสี่ยงทำให้บาดเจ็บ โดยควรใช้ผ้าหนาๆ นุ่มๆ สอดเข้าไปในปากของผู้ป่วยแทน นอกจากนี้ยังควรให้ผู้ป่วยอยู่ในบริเวณที่อากาศถ่ายเท หายใจได้สะดวก
อาการของโรคลมชัก มักเกิดขึ้นรวม 3-5 นาที แล้วหาย กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการชักทั้งตัวนานเกิน 20 นาที หรือชักติดต่อกันและไม่รู้สึกตัว ให้ถือว่าเข้าขั้นร้ายแรง จำเป็นต้องรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล …
*********************