นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เตือนพฤติกรรมการจูบที่เสี่ยงโรคมากที่สุด คือ การแลกเปลี่ยนน้ำลาย ในขณะที่มีแผลในปาก ตัวอย่างเช่น การจูบดูดดื่มสไตล์ฝรั่งเศส (French kiss) มีความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิต (Sudden adult death syndrome,SADS)
ลักษณะการจูบแลกน้ำลายดังกล่าว นำโรคติดต่อมาสู่ร่างกายได้มากกมาย เริ่มจาก โรคจูบมรณะ (Kissing disease) เกิดจากเชื้อไวรัสสำคัญชื่อ อินเฟ็กเชียส โมโนนิวคลีโอซิส (Infectious mononucleosis) เป็นเชื้อฤทธิ์ร้ายที่ให้ผลเทียบเท่าไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ทำให้มีไข้สูง, เจ็บคอ, ปวดเมื่อยตัว, ต่อมน้ำเหลืองโต แล้วลามไปยุ่งกับหัวใจจนกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เจ็บกว่าอกหักพาเอาหัวใจวายหรือ อาจนำ เชื้อไข้หวัดใหญ่ ผ่านทางน้ำลายและการสัมผัส ถ้าตอนนั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งป่วยหรือร่างกายอ่อนแออยู่จะรับเชื้อจากผู้มี เชื้อได้ง่าย การให้อารมณ์พาไปและความรู้สึกวาบหวามอาจต้องแลกมาด้วยความเจ็บป่วยจากไวรัส ไข้หวัดใหญ่ที่ทำให้นอนซมอดจูบไปได้เป็นเดือน เชื้อปอดบวม การจูบแบบแลกน้ำลายเป็นตัวอันตราย เพราะกระจายเชื้อปอดบวมลงปอดได้ในการจูบแต่ละครั้ง ถ้ามีการสำลักหรือไม่สบายก็ทำให้เกิดปอดติดเชื้อจนต้องนอนโรงพยาบาลได้ ให้สังเกตอาการต่อไปนี้หลังจากจูบคือ ไข้ ไอ และหอบ เป็นตัวตอบโจทย์ว่า อาจติดเชื้อปอดบวมเข้าให้แล้ว
ไวรัส ตับอักเสบ ทั้งชนิดเอ บี และซี มีสิทธิ์ติดผ่านการจูบได้เช่นกัน และการกินอาหารร่วมกัน เสี่ยงไวรัสตับอักเสบ อาจมีอาการ คือ ไข้, ปวดตัว, ตัวเหลืองตาเหลืองเป็นดีซ่าน เกิดอาการเรื้อรังเบื่ออาหาร ผู้ที่เคยได้รับวัคซีนมาแล้วก็จะค่อนข้างสบายใจได้สักหน่อย กลุ่มคนที่เสี่ยง คือ บุคคลกรการแพทย์, เด็กเล็ก, ผู้อาวุโส และผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ และ ไวรัสเริม เป็นเชื้อที่ติดผ่านสัมผัสได้ ไวรัสเริมที่ปากเป็นคนละชนิดกับที่อวัยวะสืบพันธุ์ ดังนั้น การป่วยด้วยเริมขึ้นปากอาจไม่มีความเกี่ยวข้องกับกามโรคใดๆ การได้รับสัมผัสแบบจุมพิตหรือโดนสะเก็ดของตุ่มเริม คือ การปลูกเชื้อเริมลงบนเส้นประสาทรอบปากเรา รักษาหายได้ แต่เชื้อจะซ่อนอยู่ รอดูเวลาที่เจ้าของปากอ่อนแอก็จะมาแผลงฤทธิ์เป็นทีๆ ไป
นอกจาก พฤติกรรมการจูบ เชื้อโรคข้างต้นยังสามารถผ่านเข้าสู่ร่างกายได้จากการรับประทานอาหารร่วมกัน โดยไม่ใช้ช้อนกลาง ใช้ช้อนส้อมร่วมกัน ดูดน้ำหลอดเดียวกัน หรือแผลในปาก แผลร้อนใน
ดังนั้น การจูบแล้วไม่ให้เกิดเรื่อง คือ ต้องจูบด้วยความระมัดระวัง ตั้งใจรักษาสุขภาพตัวเองก่อนให้ดีแล้วค่อยจูบคนที่เรารัก ป่วยอยู่ไม่สบายอยู่อย่าเพิ่งจูบ คอยดูแลอนามัยช่องปากให้ดีด้วยการแปรงฟันและแปรงลิ้นบ่อยๆ เทคนิคการจูบ คือ การค่อยๆ จูบด้วยความรักทำให้คนที่ถูกจูบรู้สึกได้ ส่วนบริเวณที่จูบแล้วใส่ความรักลงไปได้กระทบถึงหัวใจ คือ เปลือกตา กับ หัวคิ้ว ดูได้จากแม่สัตว์อย่างสุนัขหรือแมวที่เวลาเขาเลียให้ลูกจะเลียที่หน้าและรอบตา เพราะนั่นคือจุดที่ไวต่อการสัมผัส
การจุมพิตอย่างรักใคร่ที่ตาจะทำให้ผู้รับจูบรู้สึกถึงความรักที่แผ่เข้ามาได้ ไม่ถึงขั้นอ่อนระทวย แต่ช่วยให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจได้ดีมาก
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์